วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง

ล.พ.น้อย วัดศรีษะทอง
ประวัติหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
หลวงพ่อน้อย เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2435 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ ปีมะโรง ที่บ้านศรีษะทอง บิดาชื่อนายมา มารดาชื่อนางมี นาวารัตน์ หลวงพ่อน้อยมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน หลวงพ่อน้อย ท่านเป็นน้องคนสุดท้อง โยมบิดาของหลวงพ่อน้อยเป็นหมอ รักษาโรคแบบแผนโบราณและเป็นหมอไสยศาสตร์ที่เก่งกล้าทางอาคม ชาวบ้านเรียกกันว่า "พ่อหมอ" อยู่ยงคงกระพันขนาดเอามีดคมๆ สับเนื้อหนังตนเองให้ดูได้สบายไม่ระคายเคืองผิวหนังแต่อย่างใด ในสมัยที่ยังเป็นหนุ่มท่านเคยสู้กับนักเลงต่างถิ่น ถึงขั้นถูกรุม ท่านคนเดียว ยังไล่ฟันพวกนักเลงต่างถิ่นต่างบาง ด้วยดาบยับเยินไปทุกคน ขึ้นชื่อว่า "พ่อหมอ" นักเลงรุ่นนั้นเป็นส่ายหน้าหนีจนเป็นที่เลื่อมใสของคนลาวโดยทั่วไป

เมื่อหลวงพ่อน้อย ท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้บวช เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 14 ขึ้น 12 ค่ำ เดือนเมษายน พ.ศ. 2456 ปีฉลู โดยมีพระอธิการยิ้ว เจ้าอาวาสวัดแคเป็นพระอุปฌาจารย์,พระอธิการเกิด วัดงิ้วรายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระภิกษุมุน วัดกลางคูเวียงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า "คนธโชโต"

เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
เครื่องราง-ของขลัง ที่ขึ้นชื่อของท่านคือ พระราหูอมจันทร์ เนื้อกะลาตาเดียวและวัวธนู ท่านได้สร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องหลายอย่าง เป็นที่เสาะหาต้องการของใครหลายๆคน เนื่องจากพุทธคุณสูงมาก โดยเฉพาะเครื่องรางของขลังที่ขึ้นชื่อคือ พระราหูอมจันทร์ของวัดศรีษะทองมีลักษณะและวิธีการสืบมาจาก หลวงพ่อไตร แต่ได้มีการสร้างมากที่สุดในสมัยหลวงพ่อน้อย เป็นการสร้างตามตำรับใบลานจานอักขระขอมลาวที่นำมาจากประเทศลาวโดยตรง

กะลาตาเดียวแกะพระราหู ล.พ.น้อย
พระราหูอมจันทร์ เนื้อกะลาตาเดียวของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
พระราหูอมจันทร์ของวัดศรีษะทองมีลักษณะและวิธีการสืบมาจากหลวงพ่อไตร แต่ได้มีการสร้างมากที่สุดในสมัยหลวงพ่อน้อย เป็นการสร้างตามตำรับใบลานจานอักขระขอมลาวที่นำมาจากประเทศลาวโดยตรง

เครื่องรางของขลังที่ให้คุณ ในด้านของโชคลาภ การพ้นเคราะห์ แก้กรรมต่างๆ และเพื่อเสริมดวงชะตาก็คงจะต้องยกให้กับพระราหูอมจันทร์ เนื้อกะลาตาเดียว แกะของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จ.นครปฐม

วัวธนู ล.พ.น้อย
วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
วัวธนูของหลวงพ่อน้อย มีด้วยกัน 2 รูปแบบ แบบแรกเป็นวัวธนูที่แกะจากปลายยอดเขากระทิง แต่ค่อนข้างจะหายาก เนื่องจากเขาข้างเดียวแกะได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น อีกทั้งการแกะ ต้องแกะในช่วงเวลาตามฤกษ์ที่กำหนด

ส่วนแบบที่สองเป็นวัวธนูที่ปั้นขึ้นจากครั่ง ซึ่งครั่งที่จะนำมาสร้างวัวธนู ต้องนำมาจากกิ่งพุทราที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก กล่าวว่าต้องใช้ครั่งถึง 3ต้นขึ้นไป แต่หากใช้จากกิ่งตายพรายกิ่งเดียวก็พอ ด้วยมีอานุภาพตามความเชื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แลกลิงค์

Create your own banner at mybannermaker.com!
Copy this code to your website to display this banner!
เอาลิงค์ติดที่เว็บท่านแล้วแจ้งที่ infothaiamulet@gmail.com