วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

เครื่องราง-ของขลัง

เครื่องราง-ของขลัง นั้นมีมากมายทั้งทางที่ดีและทางที่ไม่ดีหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไสยดำและไสยขาว แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางประเภทใดชนิดใดหรือขั้วใด ความบริสุทธิ์ใจของวิชานั้นกระทำเพื่อการสำแดงแห่งพระเวทย์ เปรียบเสมือนกับการทดสอบความแก่กล้าในวิชาที่ร่ำเรียนมาจนก่อให้เกิด "ของดี" ที่ใครต่างพาเรียกกัน เพียงแต่ว่าการนำไปใช้ของคนในยุคก่อนๆ กลับหลงใช้ไปในทางที่ผิด ไสยศาสตร์จึงกลายเป็นไสยดำ หรือเรียกอีกอย่างว่า เดรัจฉานวิชา ที่หนักหนาเข้าไปอีกคือการนำสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่สร้างเวรสร้างกรรมมาประจุในพระเวทย์ มิใช่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในทางสร้างสรร

เบี้ยแก้ (เครื่องรางของขลัง)
สำหรับคนไทยจะรู้จักเครื่องรางของขลังใน 2 ลักษณะด้วยกันคือ
1. เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเชื่อกันว่าจะมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ไม่มีการปลุกเสกใดๆ เช่น แร่ เหล็กไหล ปรอท

2. มนุษย์สร้างขึ้น หรือคณาจารย์ต่างๆ จัดสร้างขึ้นมา โดยการปลุกเสกประจุพลังจิตให้แก่วัตถุนั้นๆ เกิดความศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้ เช่น วัวธนู เสือแกะ ลิง แพะ หนุมาน เป็นต้น โดยเครื่องรางของขลังที่มนุษย์สร้างขึ้นมักจะสร้างขึ้นโดย ผู้ทรงศีลและฆราวาสผู้เรืองพระเวทย์

สิงห์

ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่จะศึกษาหรือสะสมโปรดพิจารณาตระหนักให้ดีถึงการที่จะนำไปใช้และเรื่องราวของผลกรรม ที่เราเป็นผู้ก่อขึ้นและจะได้รับตามมาในภายหลัง ซึ่งนับเป็นสัจธรรมที่เที่ยงแท้และแน่นอน และประการสำคัญความเชื่อ คือศรัทธาที่มีเหตุผล ความหลงคือความงมงายในสติ จงเป็นผุ้เชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่บริสุทธิ์ มิใช่หลงงมงายขาดปัญญาไร้สติสัมปชัญญะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แลกลิงค์

Create your own banner at mybannermaker.com!
Copy this code to your website to display this banner!
เอาลิงค์ติดที่เว็บท่านแล้วแจ้งที่ infothaiamulet@gmail.com