tag:blogger.com,1999:blog-67300736690273959122024-02-18T21:17:00.123-08:00พระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังแหล่งความรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง สำหรับผู้นิยมสะสมพระเครื่องพระบูชา รวมถึงประวัติความเป็นมาของพระเครื่อง วัตถุมงคล พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ข้อมูลพระเครื่องทั่วไปและประสบการณ์ด้านต่างๆของพระเครื่องpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.comBlogger115125tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-38084155462921812122011-10-08T07:58:00.000-07:002011-10-08T07:58:22.582-07:00หลวงพ่อกวย ชุตินันธโร วัดโฆสิตาราม<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-mOwihsw2wz_73yHTgjt4R4WCo0KHguiwKW-ZyLambeALyCKxLX79SJP1aKFb5KYwfO9y1IPlrca7LdIdpi5hNG0NjC8SDRlydA3CR_tWvsK390XJtjJmpCLhVXHGecEKBIfYJlZ7P0qi/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="226" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-mOwihsw2wz_73yHTgjt4R4WCo0KHguiwKW-ZyLambeALyCKxLX79SJP1aKFb5KYwfO9y1IPlrca7LdIdpi5hNG0NjC8SDRlydA3CR_tWvsK390XJtjJmpCLhVXHGecEKBIfYJlZ7P0qi/s320/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">รูปถ่ายหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัดโฆสิตาราม</span></b><br />
วัดโฆสิตาราม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่๙ หมู่บ้านบ้านเเค ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มีเนื้อที่ ๓๕ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสรรคบุรี ๑๕ กิโลเมตร อายุประมาณ ๑๐๐ปีเศษ เดิมเป็นวัดร้าง ชื่อวัดขวิด ตั้งอยู่ในป่า มีกุฎิสองหลัง หลังคามุงเเฝก พอประชุมปั้นหยามุงเเฝกเช่นกัน <br />
ก่อนหลวงพ่อกวยมีเจ้าอาวาสมาเเล้ว๕รูป หลวงพ่อกวยเป็นเจ้าอาวาสรูปที่๖ เหตุที่ชื่อวัดขวิด เพราะเนื่องจากทำเลเป็นที่ดอนเเละมีต้นมะขวิดขึ้นอยู่ เเต่คนเก่าๆเเก่เรียกวัดบ้านเเค ตามชื่อของหมู่บ้านคือบ้านเเค ต่อมาสมัยที่หลวงพ่อกวยเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดโฆสิตาราม <br />
<br />
สันนิษฐานว่าหลวงพ่อกวยท่านคงมีเเรงบันดาลใจมาจากการที่ท่านได้สร้างพระพุทธพิมพ์ซึ่งมีรูปเเบบเหมือนกับของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆสิตาราม เเละในการสร้างพระหลวงพ่อยังได้ใช้ผงของสมเด็จโต วัดระฆังเป็นส่วนผสมด้วย ผงวัดระฆังนี้ ลูกศิษย์หลวงพ่อได้ไปบวชที่วัดระฆัง ได้ค้นพบผงนี้เเล้วนำมาถวายหลวงพ่อ <br />
<br />
เพื่อเป็นรำลึกถึงสมเด็จโต หลวงพ่อจึงเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ให้เป็นศิรินามเเละเป็นมงคล ลำดับเจ้าอาวาส ตามคำบอกเล่าวัดนี้มีเจ้าอาวาสมาก่อนเเล้ว๕รูปเเต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ที่มีหลักฐานเเน่ชัดตามดังนี้ <br />
<br />
๑.หลวงพ่อกวย ชุตินธโร (เจ้าอาวาสรูปที่๖ พ.ศ.๒๔๙๑ ถึง ๒๕๒๒) <br />
<br />
๒.พระอธิการสำรวย อัคคฺปญฺโญ (เจ้าอาวาสรูปที่๗ พ.ศ.๒๕๒๒ ถึง ๒๕๓๕) <br />
<br />
๓.พระครูโฆสิตพัฒนคุณ (บุญยัง ฐานวโร พ.ศ.๒๕๓๕ ถึง ปัจจุบัน) <br />
<br />
หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร มีนามเดิมว่า กวย ปั้นสน เกิดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘ ปีมะเส็ง ณ หมู่บ้าน บ้านแค หมู่ ๙ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นบุตรของคุณพ่อ ตุ้ย ปั้นสน ซึ่งบ้านเดิมอยู่วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มารดาชื่อคุณแม่ต่วน เดชมา เป็นคนบ้าน แค ท่านทั้งสองมีบุตรและธิดาด้วยกัน ๕ คน <br />
<br />
ต่อมาเมื่อครบอายุบวช จึงเข้าอุปสมบท โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระชัยนาทมุนี มีหลวงพ่อปา วัดโบสถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เเละพระอาจารย์หริ่งเป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ เวลา ๑๕ นาฬิกา๑๗ นาที อายุ ๒๐ ปี ณ วัดโบสถ์ ต.โพธิ์งาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มีฉายาว่า ชุตินฺธโร แปลว่า "โลกนี้มีแต่ความวุ่นวายของโลก หนักไปด้วยกิเลส ตัณหาคือ โลภ โกรธ หลง ทั่งสิ้น ถ้าท่านผู้ใดตัดกิเลส ตัณหาได้ก็จะถึงซึ่งฝั่งพระนิพพาน" <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhK535xISwWML5QQCqlrtHW5Mhxyrvf2F7OzhJxuKDJGA7FyxvfDZfxmYgIJT2qErFe50-TCzidKuthZL0Coe53Yd4B8bhguBwNpkeXRhVUbakcvAiznwVfVlQYvJB88EqV0d-qST2kQZLi/s1600/0080-102258.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhK535xISwWML5QQCqlrtHW5Mhxyrvf2F7OzhJxuKDJGA7FyxvfDZfxmYgIJT2qErFe50-TCzidKuthZL0Coe53Yd4B8bhguBwNpkeXRhVUbakcvAiznwVfVlQYvJB88EqV0d-qST2kQZLi/s320/0080-102258.jpg" width="256" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อกวย ชุตินันธโร วัดโฆสิตาราม</span></b></td></tr>
</tbody></table><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">สมณศักดิ์</span></b><br />
วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน และมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ อายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา ด้วยอาการสงบ ก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ หลวงพ่อได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท หมอได้วินิจฉันโรค ว่าหลวงพ่อเป็นโรคขาดอาหารมาเป็นเวลา ๓๐ ปี ได้ให้สารอาหารประเภทโปรตีนกับหลวงพ่อ เป็นเวลาถึง ๑ เดือน ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อยู่โรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็กลับวัด เมื่อกลับวัดหลวงพ่อก็ยังได้ฉันอาหารเพียงวันละ ๑ ครั้ง เช่นเดิม โดยไม่เปลี่ยนความตั้งใจ หลวงพ่อยังคงคร่ำเคร่งในการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-8578007402166249132011-10-03T04:50:00.000-07:002011-10-03T04:50:21.431-07:00หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0aS6kOUbAm66EOhmmHHsSIRpTRgv6acEcPILWSQmqPk7dbh-yxc4WPNKnlztjrag1q7ucTNad18NRjx9xVSB4XC8ZMu2TtSnYdBPPZqp-v8P6ygACzG5bY5KVssixXOyQEDKCiWdn3iJp/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="239" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0aS6kOUbAm66EOhmmHHsSIRpTRgv6acEcPILWSQmqPk7dbh-yxc4WPNKnlztjrag1q7ucTNad18NRjx9xVSB4XC8ZMu2TtSnYdBPPZqp-v8P6ygACzG5bY5KVssixXOyQEDKCiWdn3iJp/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง</span></b></td></tr>
</tbody></table>ประวัติของหลวงพ่อแช่ม ในช่วงที่เกิดและก่อนอุปสมบทนั้น ส่วนใหญ่ไม่มีรายละเอียด เรื่องราวของท่านมักจะปรากฏในทางอภินิหาร หรือความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ในหนังสือ “นิทานโบราณคดี” พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงนิพนธ์ไว้ว่า <br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระครูวัดฉลอง (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง)</span></b>ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๐ ตรงกับรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ที่ ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ต่อมาครอบครัวอพยพหนีภัยพม่า มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านฉลอง จ.ภูเก็ต พ่อแม่ส่งท่านไปเป็นลูกศิษย์วัดฉลอง ขณะนั้นมี พ่อท่านเฒ่า เป็นเจ้าอาวาส พอโตขึ้นท่านได้บวชเณร และเมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ จำพรรษาที่วัดฉลอง ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ จากพ่อท่านเฒ่า จนเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน มีสมาธิจิตสูง รวมทั้งได้ศึกษาวิชาคาถาอาคมต่างๆ วิชาแพทย์แผนโบราณ <br />
<br />
หลวงพ่อแช่มเป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้านโดยทั่วไป พ.ศ.๒๓๙๓ พ่อท่านเฒ่ามรณภาพ หลวงพ่อแช่มได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแทน นับว่าเป็นเจ้าอาวาสที่มีอายุน้อยมาก เพียง ๒๓ ปีเท่านั้นเอง จนเมื่อเกิดกบฏอั้งยี่ พ.ศ.๒๔๑๙ ท่านได้เป็นผู้นำในการปราบพวกอั้งยี่ได้ราบคาบ ทำให้เป็นที่เลื่องลือกันอย่างกว้างไกล จนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พัดยศจากในหลวง รัชกาลที่ ๕ โดยตรง และจากการที่ได้เข้าเฝ้าล้นเกล้าฯ ร.๕ นี้เอง ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า “พ่อท่านสมเด็จเจ้า” หมายถึง ตำแหน่งที่เจ้า (ในหลวง) พระราชทานให้โดยตรง พัดยศที่ได้รับพระราชทานก็เป็นพัดยศพิเศษ ไม่เหมือนที่ใดมาก่อนเลย นับเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจยิ่ง <br />
<br />
<b>หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง</b> มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๔๕๑ สิริรวมอายุ ๘๑ ปี พรรษา ๖๑ นับถึงปีนี้ครบรอบ ๑๐๐ ปีพอดี แม้หลวงพ่อแช่มท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ความทรงจำในเกียรติคุณและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ยังคงมีอยู่อย่างมั่นคงในความจิตใจของชาวเมืองภูเก็ต และชาวไทยทั่วประเทศ <br />
<br />
ในส่วนของวัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่ม สมัยที่ท่านยังชีวิตอยู่ก็มีเพียงผ้าประเจียด ที่ทำขึ้นอย่างง่าย แล้วปลุกเสกด้วยความตั้งใจจริง จึงมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของวัตถุมงคลหลวงพ่อแช่มที่เป็นรูปเหมือนบูชา เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง พระผง ฯลฯ ได้มีการจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๔๗๑ คือหลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว ๒๐ ปี เป็นการจัดสร้างโดยวัดฉลอง และวัดอื่นๆ ที่ได้อาศัยบารมีของท่านตลอดมา จนทำให้วัตถุมงคลหลวงพ่อแช่มมีอยู่จำนวนมากมายหลายรุ่น ซึ่งล้วนแต่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเมตตามหานิยม อุดมโชคโภคทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย รวมทั้งด้านป้องกันคุณไสยสิ่งจัญไรต่างๆ ได้เป็นอย่างดียิ่ง <br />
<br />
ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี แห่งวันละสังขารของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ในปี ๒๕๕๑ นี้ ชัยนฤทธิ์ พันธุ์ทอง และทีมงานนิตยสาร “พระเครื่องล้ำค่า” จึงได้จัดพิมพ์หนังสือประวัติ หลวงพ่อแช่ม ฉบับสมบูรณ์ขึ้น เป็นหนังสือปกแข็งขนาดมาตรฐาน หนา ๓๑๘ หน้า พิมพ์สี่สี ด้วยกระดาษอาร์ตอย่างดีทั้งเล่ม โดยได้บรรจุเรื่องราวต่างๆ อันน่าสนใจไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของ ประวัติหลวงพ่อแช่ม ประสบการณ์อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เลื่องลือกันมาช้านาน และที่สำคัญคือ ประวัติการสร้าง เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง รุ่นต่างๆ รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ ไว้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการจัดพิมพ์ หนังสือประวัติหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง มาก่อนหน้านี้<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7_RP4yiYUNQEPkP8uKD9TRCG5sNdyUnQE6eAB9lH6BoF841ngiy82doh5Y3-PnauvNYNoShOB-4NZlU3brCk0jcGo4pVOuKnStJjwY6LvozF016-sO0qNAEKcWbT8y_7I2veVgEwccw1H/s1600/%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7_RP4yiYUNQEPkP8uKD9TRCG5sNdyUnQE6eAB9lH6BoF841ngiy82doh5Y3-PnauvNYNoShOB-4NZlU3brCk0jcGo4pVOuKnStJjwY6LvozF016-sO0qNAEKcWbT8y_7I2veVgEwccw1H/s320/%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" width="256" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ปี 2486</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม</span></b><br />
วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อแช่ม ล้วนเริ่มสร้างในสมัยท่านหลวงพ่อช่วง เป็นเจ้าอาวาส และหลวงพ่อแช่มมรณภาพไปแล้ว จะมีวัตถุมงคลอยูประเภทเดียวที่ทันท่านคือ ผ้าประเจียดสีขาว ซึ่งท่านแจกลูกศิษย์คราขบถ ของกรรมกรทำเหมืองแร่ เท่านั้น<br />
<br />
เหรียญรุ่นแรก ปี พ.ศ.2486 จัดสร้างพร้อมกับการสร้างรูปหล่อหลวงพ่อแช่มpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-43836871940377776342011-09-28T09:57:00.000-07:002011-09-28T09:57:14.333-07:00หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7bzBbzGlXCUifjhz7gbNtosZBQ2IUUlmePZsUukWpDDaV_2hZatAdRIJNCI1GbVsTu0NWfYq5_39DQiD0shvC-D1Js4aIm9iU3iJWU1dZJNRF97Aihiqv_9jSUAUEtSvtAiX6X6CtVCsA/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7bzBbzGlXCUifjhz7gbNtosZBQ2IUUlmePZsUukWpDDaV_2hZatAdRIJNCI1GbVsTu0NWfYq5_39DQiD0shvC-D1Js4aIm9iU3iJWU1dZJNRF97Aihiqv_9jSUAUEtSvtAiX6X6CtVCsA/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A2.jpg" width="212" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว</span></b></td></tr>
</tbody></table>พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี "<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อโบ้ย</span></b>" วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นมีเมตตาธรรมสูง มักน้อยถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลังอาคมที่แก่กล้า นามของท่านจึงขจรขจายไปไกลทั่วภาคกลาง <br />
<br />
อัตโนประวัติ เกิดเมื่อปี 2435 ปีมะโรง ไม่ทราบวันเดือนที่แน่ชัด ณ บ้านสามหมื่น ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ท่าน ได้ศึกษาพระธรรม และจำพรรษาอยู่ที่วัดมะนาว ราว 3 พรรษา จึงได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านพระธรรมวินัย และอักขระขอม ที่วัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) เขตธนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2459<br />
<br />
จากนั้นจึงได้ศึกษาต่อ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดอมรินทร์ เป็นเวลา 8-9 ปี จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาว ในปี พ.ศ.2466 และในปีถัดมาจึงได้มีโอกาสไปศึกษาต่อวิชาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 1 พรรษา จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาวอีก <br />
<br />
หลวงพ่อโบ้ยเป็นพระที่ถือสมถะ สันโดษ มักน้อย ไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ได้รับกิจนิมนต์โปรดญาติโยม ไปสวดมนต์ ไม่ว่าที่ใด หากญาติโยมถวายเงินปัจจัยเป็นจำนวนมากๆ ท่านจะไม่ยอมรับไว้ เหตุนี้ท่านจึงไม่ยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาส ทั้งไม่รับครองผ้ากฐิน วัตรปฏิบัติของท่านที่ทำเป็นประจำ คือ ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสี่ทุกวัน และทำวัตรสวดมนต์ จนกระทั่งรุ่งเช้า จึงออกไปบิณฑบาต เมื่อกลับมาถึงวัด ท่านจะนิมนต์พระทุกรูปในวัดยืนเข้าแถว แล้วจะตักข้าวในบาตรของท่านถวายแด่พระทุกรูป เป็นเช่นนี้ประจำอยู่ทุกวัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคลแจกฟรี โดยไม่ยอมรับปัจจัยเด็ดขาด จึงนับได้ว่าท่านเป็นพระผู้สละแล้วซึ่งทุกสิ่ง <br />
<br />
วัตถุมงคลของท่านเริ่มสร้างในราวปี พ.ศ.2473 เป็นพระเนื้อโลหะผสม เช่น โตก ขันลงหิน เชี่ยนหมาก เป็นต้น ดังนั้น พระของท่านบางครั้งจึงมีสีไม่ค่อยเหมือนกัน พระของท่านนั้นจะเทหล่อกันเองภายในวัด ตอนที่ท่านสร้างวัตถุมงคลนั้น ท่านไม่ได้จำวัดตลอดทั้งคืน เทหล่อจนใกล้รุ่งสาง ใช้ตะไบแต่งริมขอบทุกองค์ รอยตะไบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งหลังจากฉันเพลแล้ว ท่านก็จะเอาพระเข้ากุฏิทำการปลุกเสก พอตอนบ่ายท่านก็จะเริ่มแจก ปรากฏว่ามีคนมาคอยรับแจกกันคับคั่ง แม้แต่ชาวต่างจังหวัดก็เดินทางมารับแจก<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioZjXEg0izYt1kTzh_jS8T-syh5opP452lSwU_17p4QRog4H2aqBKBBxSHvTMxD2IP1_9sHQoLzUbKZeI2ENFJ7wkA8HQ-qqLNXDHcFJT7sdz-jEqzHOTCJ7hNDpk1u6t8lZRO7uEzzX97/s1600/30nov065.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioZjXEg0izYt1kTzh_jS8T-syh5opP452lSwU_17p4QRog4H2aqBKBBxSHvTMxD2IP1_9sHQoLzUbKZeI2ENFJ7wkA8HQ-qqLNXDHcFJT7sdz-jEqzHOTCJ7hNDpk1u6t8lZRO7uEzzX97/s320/30nov065.jpg" width="290" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัตถุมงคลหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว</span></b></td></tr>
</tbody></table>วัตถุมงคลที่หลวงพ่อโบ้ยจัดสร้าง โดยมากจะเป็นโลหะประเภททองเหลือง ซึ่งเป็นพวกเครื่องใช้ที่ชาวบ้านนำมาถวาย ท่านเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2473 และต่อมาภายหลัง เมื่อปี 2500 ท่านได้สร้างพระชานหมากเป็นรูปของท่าน ท่านเอาชานหมากที่ท่านฉันเก็บเอาไว้เป็นเวลานาน 15-20 ปี นำเอามาผสมกับขี้ธูปและดอกไม้แห้ง ผสมกับดินและใช้น้ำตาลโตนดเป็นเชื้อสมานเนื้อพระ <br />
<br />
พ.ศ.2479 ท่านเริ่มสร้างพระเนื้อดินเผา ในปี พ.ศ.2500 ท่านสร้างพระเนื้อชานหมาก เป็นรูปท่าน เหรียญของหลวงพ่อโบ้ยสร้างในปี พ.ศ.2508 คือ เหรียญสี่เหลี่ยมตัดมุม และเหรียญกลมนั่งเต็มองค์ สร้างเมื่อคราวผูกพัทธสีมา ส่วนเหรียญกลมครึ่งองค์นั้น สร้างในคราวฌาปนกิจหลวงพ่อ ทั้งนี้ หลวงพ่อโบ้ยท่านทำพระแจกอย่างเดียว ไม่ยอมรับปัจจัยจากผู้บริจาคอย่างเด็ดขาด <br />
<br />
หลวงพ่อโบ้ย มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2508purinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-47809312864759375012011-09-26T02:49:00.000-07:002011-09-26T02:49:13.279-07:00หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuBUYC_oCtetjzGAnUxMcgTxSpQAj7UAeou6Dy5NRRCON0raimgERTGYbYxU7NsfkujMYICr_ahjPWBLSakpphBfzeis579qxoeJdIpbtwjlo3qwmx5pnI7eM_zXgzQKua-oLJ4zY20w05/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="179" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuBUYC_oCtetjzGAnUxMcgTxSpQAj7UAeou6Dy5NRRCON0raimgERTGYbYxU7NsfkujMYICr_ahjPWBLSakpphBfzeis579qxoeJdIpbtwjlo3qwmx5pnI7eM_zXgzQKua-oLJ4zY20w05/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม</span></b> พระเกจิผู้ทรงด้วยวิทยาคมและพุทธาคมเป็นเลิศ เจ้าของฉายาว่า "เหรียญปืนไขว้" เป็นพระเกจิในยุคสมัยเดียวกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อคง หลวงพ่ออี๋ และพระครูบาศรีวิชัย วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เคารพเลื่อมใสและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ "เหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก" ซึ่งสร้างเมื่อปี พ.ศ.2484 เพื่อแจกทหารหาญที่ผ่านสงครามอินโดจีน ว่ากันว่ามีพุทธคุณล้ำเลิศในด้านคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้าทีเดียว รูปทรงของเหรียญก็ออกจะแปลกกว่าเหรียญรูปเหมือนอื่นๆ ที่นิยมสร้างเป็นเหรียญรูปไข่หรือทรงเสมา คือ ขอบโดยรอบจะหยักเป็นมุมแหลม 16 หยัก เท่ากับอัตราโสฬสมงคล "พระเจ้าสิบหกพระองค์" ดูสวยงามมากครับผม <br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อแช่ม พรหมสโร</span></b> เป็นชาวนครปฐมโดยกำเนิด เกิดเมื่อปี พ.ศ.2405 ตั้งแต่เยาว์วัยได้ศึกษาร่ำเรียนอักขระทั้งภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอาจารย์จ้อย วัดดอนเจดีย์ ผู้เรืองวิทยาคม พระอาจารย์เห็นถึงคุณวิเศษและความใฝ่ใจของหลวงพ่อแช่ม จึงประสิทธิ์ประสาทวิทยาการด้านพุทธเวทพร้อมเคล็ดลับต่างๆ ให้โดยไม่ปิดบัง ซึ่งท่านก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างแตกฉาน ต่อมาเมื่ออายุครบบรรพชาท่านจึงเดินทางกลับมาบวช ณ บ้านเกิด ที่วัดตาก้อง ได้รับฉายา "พรหมสโร" ศึกษาด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระ และฝึกฝนวิทยาการที่ได้ร่ำเรียนมาจนเกิดความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาเพิ่มเติมจากพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของ จ.นครปฐม ในสมัยนั้นอีกด้วย อาทิ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ฯลฯ จนเป็นที่เลื่องลือกันว่าท่านสำเร็จกสิณถึงขั้นอภิญญา <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3zBCgVh4F7qnTuvOToqrYBqH1rGQG9ofNQuog0RFpiuREaDvaOs21CjaG8SSAM1HrtoOTcfrX9fyfEWa1shNFheaG4PDwbRhIiPPkd0yuyT3WE2hyphenhyphenfxEEGAP9EOIbnY0zflnvwSKIn5KT/s1600/%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3zBCgVh4F7qnTuvOToqrYBqH1rGQG9ofNQuog0RFpiuREaDvaOs21CjaG8SSAM1HrtoOTcfrX9fyfEWa1shNFheaG4PDwbRhIiPPkd0yuyT3WE2hyphenhyphenfxEEGAP9EOIbnY0zflnvwSKIn5KT/s320/%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1.jpg" width="283" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง</span></b></td></tr>
</tbody></table>เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแช่ม รุ่นแรก สร้างเป็นเหรียญปั๊มขอบหยัก หูในตัว แล้วเชื่อมต่อด้วยห่วงกลม เนื้อทองแดง มีทั้งแบบรมดำและไม่รมดำ ด้านหน้าตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อแช่มนั่งครองจีวรห่มคลุม เต็มองค์ มือข้างซ้ายยกขึ้นและมีอักขระขอม "ตัวนะ" ที่ฝ่ามือ ไม่มีอาสนะสำหรับรองนั่งแต่กลายเป็น "ปืนไขว้" แทน ซึ่งเป็นอุปเท่ห์อย่างหนึ่งทางไสยเวทเรียกกันว่า "ข่มอาวุธ" หรือเรียกว่าเป็นการตัดไม้ข่มนาม โดยรอบมีอักษรไทยว่า "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" มีอักขระขอมตรงอกเป็น "ตัวอะ" และบริเวณโดยรอบองค์ท่านอ่านว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" ในหยักทั้ง 16 หยัก มีพระนามย่อ "พระเจ้าสิบหกพระองค์" อ่านว่า "นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอํ" <br />
<br />
พิมพ์ด้านหน้าของเหรียญยังแบ่งแยกออกเป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์หูเดียวและพิมพ์สองหู "พิมพ์สองหู" รูปเหมือนหลวงพ่อแช่มนั้นปรากฏหู 2 หู ซึ่งถือเป็นปกติ ส่วน "พิมพ์หูเดียว" หูที่รูปเหมือนฯ มีเพียงหูข้างขวาของท่านเพียงหูเดียว ซึ่งไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นเจตนาหรือช่างที่แกะแม่พิมพ์ลืมกันแน่ สำหรับในวงการนักนิยมสะสมพระเครื่องพิมพ์หูเดียวจะมีจำนวนน้อยกว่าจึงเล่นหาได้ยากกว่า ทำให้สนนราคาสูงกว่าตามไปด้วย แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหนก็นับเป็นเหรียญเก่าแก่ที่เป็นเลิศด้านพุทธคุณคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ฉมังนักpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-69693096803271742622011-09-17T05:45:00.000-07:002011-09-17T05:45:44.577-07:00ประวัติท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglGjiosCYUc15mqqcvSmvAMg1i2Ca-FFGrdL33aSkGjl-DIT9VQAj8cP1oDlLjvpybZ5qOSfw5MdnaBESQhu17bt6jXdPr7SkRoYIYyu2MXkjpt8eBqz6630bJUpnnvVRdO5Yvl3JwCEm-/s1600/%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="272" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglGjiosCYUc15mqqcvSmvAMg1i2Ca-FFGrdL33aSkGjl-DIT9VQAj8cP1oDlLjvpybZ5qOSfw5MdnaBESQhu17bt6jXdPr7SkRoYIYyu2MXkjpt8eBqz6630bJUpnnvVRdO5Yvl3JwCEm-/s320/%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ท้าวเวสสุวรรณ</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ท้าวเวสสุวรรณ</span></b> เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เรียกง่าย ๆ ว่า " นายผี " เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักขะ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ว่ากันว่าอาณาเขตที่ท้าวดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่ (หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4) กว่าท้าวมหาราชองค์อื่น <br />
<br />
<b>ท้าวเวสสุวรรณ</b> เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูติผีปีศาจทั้งปวง ( ในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ) นอกจากนี้หน้าที่ของท้าวเธอมีมากมาย เช่น การดูแลปกป้องคุ้มครอง พระพุทธศาสนา , ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้น<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg4ZAaBj3dhNO9mompe1Pnvfe05A7vpB82LLIQRUfapILWg1IzRU_jLQp__Rd-9gqaM7me_0fXN3-s0cnZQPL75Kl0RHXiTEyDyLNT7c_qcV3OK_vshPIwzJKsnillwP6A4Ht6x9_AmAEi1/s1600/%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25AC%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg4ZAaBj3dhNO9mompe1Pnvfe05A7vpB82LLIQRUfapILWg1IzRU_jLQp__Rd-9gqaM7me_0fXN3-s0cnZQPL75Kl0RHXiTEyDyLNT7c_qcV3OK_vshPIwzJKsnillwP6A4Ht6x9_AmAEi1/s320/%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25AC%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B5.jpg" width="218" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อ อิฏฐ์ วัดจุฬามณี</span></b></td></tr>
</tbody></table>ในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวรภูมิที่อยู่ต่อจากมนุษยภูมิขึ้นไป มีเทวดาผู้เป็นใหญ่ เป็นมหาราชอยู่ ๔ องค์ คือ <br />
<br />
๑. <b>ท้าวธตรัฏฐะ</b> อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอง คันธัพพเทวดา <br />
<br />
๒. <b>ท้าววิรุฬหกะ</b> อยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอง กุมภัณฑ์เทวดา <br />
<br />
๓. <b>ท้าววิรูปักขะ</b> อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอง นาคเทวดา <br />
<br />
๔. <b>ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ</b> อยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอง ยักขเทวดา <br />
<br />
มหาราชทั้ง ๔ นี้ เป็นผู้รักษามนุษยโลก หรือเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล ซึ่งมีสถานที่ปกครองตั้งแต่ตอนกลางของเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงมนุษยโลก มีอาณาเขตแผ่ออกไปจดขอบจักรวาลpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-70432625087419523202011-09-15T03:30:00.000-07:002011-09-15T03:30:24.030-07:00พรเครื่องยอดนิยม1. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระร่วงรางปืน และลายผ้า</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicmHYrG1FZn5T47RnLZl83SeItoN-3Uy5TU7iKOd_sIrWyfzJmKT59rP3yIp01UUHHn-v_Dc3QtKUfTJS6APWpiqv7ahaF0X4xWy8p5hSRte01VTwmkrVtvnCIt2JnqozPzfUds4MjBIxx/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicmHYrG1FZn5T47RnLZl83SeItoN-3Uy5TU7iKOd_sIrWyfzJmKT59rP3yIp01UUHHn-v_Dc3QtKUfTJS6APWpiqv7ahaF0X4xWy8p5hSRte01VTwmkrVtvnCIt2JnqozPzfUds4MjBIxx/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระร่วงรางปืน และลายผ้า</span></b></td></tr>
</tbody></table>เป็นพระศิลปลพบุรี อายุอานามสร้างรุ่นราวคราวเดียวกันเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจ วันเดือนปีใดไม่ปรากฏการสร้าง สร้างไว้ที่ลพบุรีและที่สุโขทัย เป็นอันอับแรกเพราะการพบครั้งนั้นพบที่ลพบุรีและที่สุโขทัย ความต้องการและความนิยม มีมากกว่าพระดังได้กล่าวมาข้างต้น (สมัยก่อนราคาค่างวดยังแพงอยู่ เอาสมเด็จไปแลกไม่ได้ แต่ปัจจุบันนี้ พระร่วง 5 องค์ยังแลกพระสมเด็จไม่ได้) ราคาเช่าในปัจจุบัน หลักล้านสวย ถ้าไม่สวยหลักแสน ของปลอมมีมากกว่าของแท้ ทำได้เฉียบขาด<br />
<br />
2. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระหูยาน ลพบุรี</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh2Caoh_yo5kd7guD5QBG2VLvsq8dcsmlKefPKmszWwsRm-QUsxx4bDS3mb8Tlz89INOaeNQvvoz7qgP38mzznpvpf6x4iizTNF1G-tMGrRf44Hdh3hPha0LrmgYV2Mr8OncsO7T7dhiq18/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599+%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh2Caoh_yo5kd7guD5QBG2VLvsq8dcsmlKefPKmszWwsRm-QUsxx4bDS3mb8Tlz89INOaeNQvvoz7qgP38mzznpvpf6x4iizTNF1G-tMGrRf44Hdh3hPha0LrmgYV2Mr8OncsO7T7dhiq18/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599+%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระหูยาน ลพบุรี</span></b></td></tr>
</tbody></table>มีทั้งกรุเก่าและกรุใหม่โดยมากคนรุ่นใหม่ขอบพระกรุใหม่มาก มีทั้งกรุ 08 และกรุเก่าก่อน 08 ของแท้สวยงามกรุใหม่พิมพ์ใหญ่ ราคาเป็นแสน กรุเก่าราคาตามไม่ทันแต่เล่นหาเช่าบูชาต้องกรุเก่า ชัวร์ที่สุด<br />
<br />
3. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระท่ากระดาน กรุศรีสวัสดิ์ เมืองกาญจนบุรี</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi95Sw4AHW4CCgAoo5Osh6-tgIHq_xFpVyIsOWQogmVrP3ZewEgcyxN9bgOwYZk8mvYuwKIgnmY_cRgbExyCwuW5unvCIaLLRPx14y2Z6UF3d8Wm9Ks820_-scOs5n2sAvgNVuDdbti1PHj/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599+%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258C+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi95Sw4AHW4CCgAoo5Osh6-tgIHq_xFpVyIsOWQogmVrP3ZewEgcyxN9bgOwYZk8mvYuwKIgnmY_cRgbExyCwuW5unvCIaLLRPx14y2Z6UF3d8Wm9Ks820_-scOs5n2sAvgNVuDdbti1PHj/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599+%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258C+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" width="134" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระท่ากระดาน กรุศรีสวัสดิ์ เมืองกาญจนบุรี</span></b></td></tr>
</tbody></table>เป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดงและไม่แดงก็มี (แดงแห้งก็มี) หมดยาง เป็นพระตะกูลอู่ทอง ภาพพระนูนสูง ไม่ใช่นูนต่ำ มีคนเชื่อกันว่าเรื่องเหนียวชะมัด มีทั้งหน้าแก่และหน้าหนุ่ม พระเกศมาลาบิดและไม่บิด มีคนสนใจใฝ่หากันมากเหลือเกิน เพราะเชื่อคนเก่าแก่กันไว้ สนนราคาเช่าหากันขณะนี้องค์ละเป็นแสนบาท แล้วแต่สวยและไม่สวย<br />
<br />
4. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระปรุหนัง พิมพ์บัวเม็ด</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXeMP1p3MdQJNqL6qS3MLVRvuo0yIUJe8A2zhW133p5LzQDfOTI1fcs_TJBhUDOEJo-izcArFB59-tLzSXcDGqkFOd6TYCNdaWJUh_N7qi2tcld4pwkrpbqMciVBkRnEy-uhfrczXKAjLW/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2594.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="112" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXeMP1p3MdQJNqL6qS3MLVRvuo0yIUJe8A2zhW133p5LzQDfOTI1fcs_TJBhUDOEJo-izcArFB59-tLzSXcDGqkFOd6TYCNdaWJUh_N7qi2tcld4pwkrpbqMciVBkRnEy-uhfrczXKAjLW/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2594.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระปรุหนัง พิมพ์บัวเม็ด</span></b></td></tr>
</tbody></table>มีโมคลาและพระสารีบุตรทั้ง 2 ข้าง องค์พระประทับนั่งตรงกลาง อยู่บนบัวคว่ำและบัวหงาย มีซุ้มจิกเป็นลวดลายอยู่เบื้องบน พระองค์กลางนั่งปางสะดุ้งมาร องค์ข้างยืนพนมมือ ทั้ง 2 องค์ มีหลังตันและฉลุโปร่ง ดูสวยงามดี เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ศิลปะสวยงามดี ผู้คนสนใจพระปรุหนังกันมาก เพราะปรากฏว่ามีเหตุการณ์ที่อันมหัศจรรย์ยิ่ง คือยิงไม่ออก<br />
<br />
5. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระเดี่ยวดำ-เดี่ยวแดง</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhthiJ4rO3DnPct6PDYposSzrnqlF0-B6CnkhuoaeCXxEJpSjHLPJ3bkre9s3ufENynYdqRYJ6FicBkOO2xV9sg9okzqyp8PkWE8qkarguCiUR6Gddq3OqE83bFuErWjn1quFQskYXy87rZ/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B3-%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhthiJ4rO3DnPct6PDYposSzrnqlF0-B6CnkhuoaeCXxEJpSjHLPJ3bkre9s3ufENynYdqRYJ6FicBkOO2xV9sg9okzqyp8PkWE8qkarguCiUR6Gddq3OqE83bFuErWjn1quFQskYXy87rZ/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B3-%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2587.jpg" width="160" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระเดี่ยวดำ-เดี่ยวแดง</span></b></td></tr>
</tbody></table>พระเดี่ยวดำ-เดี่ยวแดงมีทั้งเนื้อดินเผาและตะกั่วสนิมแดงและชินเงินก็มี แตกกรุที่วัดใหญ่ท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี มีหลายปีก่อนถือว่าเป็นกรุต้นกำเนิด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีหลายแห่งที่เราพบ คือ ที่ไผ่ขาด อำเภออินทร์บุรี, ที่ซุ้มกระต่าย, โพธิ์นางดำ สรรพยา ชัยนาท,ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี, และที่กรุเขาสมอคอนท่าวุ้ง ลพบุรี, ต้นกำเนิดครั้งแรกพบที่ท่าวุ้ง ประทับใจเล่นพระเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวลพบุรีเล่นกันมาก ราคาก็แสน<br />
จะแพงลิบลิ่วองค์สวยๆงามๆ ตกราว 4-5 หมื่น ยิ่งปัจจุบันมีนักเล่นพระมากมายอยากได้ยิ่งแพง ไม่ว่าจะเป็นของที่ได้จากที่ใดก็ตามเป็นพระที่สร้างในสมัยลพบุรี-อู่ทองpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-30716072913109342312011-09-12T19:49:00.000-07:002011-09-12T23:50:54.548-07:00อันดับพระเครื่องยอดนิยม1. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">สุดยอดความนิยมพระเครื่องแห่งปี สมเด็จวัดระฆัง</span></b><br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4PKiOe_JjLAyPY1SewQLr7X4oOvtlFlS1YU1lmMkD0vKikyMCzIRPZDmqWoVntfjqT-r7wLb8ftz6UhSy8NymtgGNdgi41G1rEgX5kYMWmwRfwhasgXkhz7A1wD4IOQ-HIrLROD1W1gu3/s1600/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4PKiOe_JjLAyPY1SewQLr7X4oOvtlFlS1YU1lmMkD0vKikyMCzIRPZDmqWoVntfjqT-r7wLb8ftz6UhSy8NymtgGNdgi41G1rEgX5kYMWmwRfwhasgXkhz7A1wD4IOQ-HIrLROD1W1gu3/s200/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587" width="134" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">สมเด็จวัดระฆัง</span></b></td></tr>
</tbody></table>ขึ้นชื่อลือชาและโดดเด่นโด่งดังอยู่ในขณะนี้ระดับเดียวกันเห็นจะไม่มีพระคณาจารย์ใดดังเท่ากับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พราหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตารามไปได้ เรียกว่าดังทั่วแคว้นแดนสยาม การเช่าบูชาอยู่ในระดับสูงมาก ความนิยมว่ากันว่าตายแล้วเกิดใหม่ยังนิยมอยู่ แท้หรือไม่แท้ว่ากันอีกที เคยมีข่าวว่าพระสมเด็จแท้ สามารถประมูลกันถึง 24 ล้านบาท<br />
<br />
2. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระรอด จังหวัดลำพูน</span></b><br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjjUtBas5JV35R0RlTOj9z15CL3fSGf5D7Sy3s5lI2_qK0Ceris-rfqLZUa1yTeJ1hiaFAJcJkEszfsof0OEv1-xoPtWLykfifimI857ZOflbtoV4BgrkPgrALQB_E5IRNi0ynLN0UK5xsH/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjjUtBas5JV35R0RlTOj9z15CL3fSGf5D7Sy3s5lI2_qK0Ceris-rfqLZUa1yTeJ1hiaFAJcJkEszfsof0OEv1-xoPtWLykfifimI857ZOflbtoV4BgrkPgrALQB_E5IRNi0ynLN0UK5xsH/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599.jpg" width="150" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระรอด จังหวัดลำพูน</span></b></td></tr>
</tbody></table>เป็นพระที่เขาเล่ากันว่า ฤาษีสร้าง เมื่อครั้งพระนางจามเทวีได้ไปครองเมืองลำพูน เป็นพระที่ขึ้นชื่อลือชาอีกองค์หนึ่ง ในกระบวนพระเครื่องทั้งหมดที่มีคนสรรค์หาอย่างมากไม่แพ้พระสมเด็จเท่าใดนัก แคล้วคลาด ปลอดภัยต่ออันตรายทั้งหลายทั้งปวงใครมีพระรอดรับรองว่าไม่ตายโหง รู้สึกว่าหากัน<br />
มาก รู้ราคาลดหลั่นกันไปที่ความแท้ (และความงาม)มีอายุการสร้างไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ปี เป็นอย่างต่ำ<br />
<br />
3. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก</span></b><br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgxXzOrZy6-EMxVk8yyLF0z9R0fVbVR2eCF5p2lLP2GDSJh0gVEP956-LJ1H-PxNs9GNWBJdWZqY0Or44CF9ubjVMAPTphml9uKVj7vd9R0vhLJxlN2IDTA86mrimPjAgHCBkbppuhdUB9H/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgxXzOrZy6-EMxVk8yyLF0z9R0fVbVR2eCF5p2lLP2GDSJh0gVEP956-LJ1H-PxNs9GNWBJdWZqY0Or44CF9ubjVMAPTphml9uKVj7vd9R0vhLJxlN2IDTA86mrimPjAgHCBkbppuhdUB9H/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" width="143" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก</span></b></td></tr>
</tbody></table>เป็นพระเนื้อดินเผา (ส่วนเนื้อชินก็มีไม่นิยมเท่า) มีหลายพิมพ์ทรง เข่าตรง เข่าโค้ง คนที่ศรัทธาเลื่อมใสกันมากนั้นได้แก่ พิมพ์ใหญ่นิยมเข่าตรงและเข่าโค้ง เชื่อว่ามีนางพญาแล้วอะไรๆ ก็รื่นไหล จะคิดการณ์อะไรได้ดังสมเจตนาหนำซ้ำคงกระพันชาตรี<br />
<br />
4. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ทุ่งเศรษฐี</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjecD9KMhJ19xV_lKJx0AEJlnEAZrSM9WKbx8YbgzFdcPEirMlHu7GWzD8IlMSRb0AMNLS6bdwtk78MRpa7kOT8xZsm4m_oEisH80hVOdgZnMRijfJYy3hLHGEKYBlyMeiHvIkrpLPa-VWy/s1600/%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%2590%25E0%25B8%25B5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjecD9KMhJ19xV_lKJx0AEJlnEAZrSM9WKbx8YbgzFdcPEirMlHu7GWzD8IlMSRb0AMNLS6bdwtk78MRpa7kOT8xZsm4m_oEisH80hVOdgZnMRijfJYy3hLHGEKYBlyMeiHvIkrpLPa-VWy/s200/%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%2590%25E0%25B8%25B5.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระลีลา ทุ่งเศรษฐี</span></b></td></tr>
</tbody></table>ถูกจัดอันดับภายหลัง เป็นพระจังหวัดกำแพงเพชร ชื่อก็เป็นมงคลอยู่แล้วกำแพงยังเป็นเพชรเลย นับประสาอะไรความแกร่งกร้าวของพระจะไม่แข็ง แข็งและป้องกันภัยภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงได้ดียอดเยี่ยม ปลอดภัยในทุกกรณี ถ้าผู้ใดมีพระทุ่งเศรษฐี (ซุ้มกอและทุ่งเม็ดขนุน) ราคาเช่าบูชา กำแพงต้องแพงสมชื่อ ราคาต้องตกลงกันเอง ความนิยมไม้แพ้พระรอดพระนางพญา ไปได้เลยจึงมีคนสนใจใฝ่หากันมาก<br />
<br />
5. <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ผงสุพรรณ</span></b> <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjInQgztsA2hyphenhyphenxLGjxhHRHWG7q4s3vVkXv8EMtho38LQJxHIccR8W3LpBJZKSV8ezw2Ts6EmLk2eEq4eFhw_QzknmtINUcl7XIZAjN9gtKN9i3EhyQHhlwsDpBGfoc6mEKKjo3erWO2h3XT/s1600/%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjInQgztsA2hyphenhyphenxLGjxhHRHWG7q4s3vVkXv8EMtho38LQJxHIccR8W3LpBJZKSV8ezw2Ts6EmLk2eEq4eFhw_QzknmtINUcl7XIZAjN9gtKN9i3EhyQHhlwsDpBGfoc6mEKKjo3erWO2h3XT/s200/%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593.jpg" width="145" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ผงสุพรรณ</span></b></td></tr>
</tbody></table>ในตำนานว่าสร้างด้วยผงเกษร 108 เนื้อละเอียดสุดๆผมเองไม่เคยได้และไม่เคยมี มีมากน้อยแค่ไหนก็ไม่เคยรู้ แต่รู้ว่าเนื้อละเอียดไม่มีแร่เป็นดินเผาสีแดง และสีใบตะโกแห้ง ส่วนรูปทรงดูในหนังสือ พอจะรู้องค์ไหนแท้องค์ไหนเทียม ส่วนสีอื่นก็มีราคาเช่าบูชาองค์ละเป็นล้านหรือหลายๆ ล้านแล้วแต่ความสวยงาม เชื่อว่าของจริงของแท้มีน้อยมากของปลอมมีมากกว่าpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-51205386464402219662011-09-09T09:45:00.000-07:002011-09-10T07:30:06.645-07:00ขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ขี้ผึ้งสีปาก</span></b>เป็นของที่มีมาแต่โบราณกาลใช้สำหรับสีริมฝีปาก กันริมฝีปากแตกระแหงอันเป็นรอยน่าเกลียด ขี้ผึ้งสีปากแต่ก่อนทำจากขี้ผึ้งจากรังผึ้งแท้ ๆ นำมาผสมเข้ากับน้ำมันหอมที่กลั่นมาจากดอกไม้ เช่น ดอกกระดังงา ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกสาระภี ดอกพิกุล ดอกบุนนาคฯ แล้วแต่ผู้ใช้จะชอบกลิ่นดอกไม้อย่างไหนก็ใช้น้ำมันกลิ่นดอกไม้นั้น ๆ ผสมกับขี้ผึ้งที่จะใช้สีริมฝีปากนั้น ต่อมาขี้ผึ้งสีปากได้มีที่ใช้กับคนที่กินหมากขึ้นอีก เพราะหมากนั้นมีส่วนผสมของปูนทำให้ฝีปากแตกและตึงมากขึ้น ผู้กินหมากจึงใช้ขี้ผึ้งสีปากสีแก้อาการดังกล่าว ขี้ผึ้งสีปากจึงมีบทบาทอยู่กับการกินหมาก ต่อมาลิปสติกที่ฝรั่งตะวันตกทำสำหรับริมฝีปากผู้หญิงเขาก็คิดขึ้นจากการใช้ขี้ผึ้งสีปากของพวกเรานี้เอง แต่เป็นธรรมดาของคนที่เจริญด้วยศิลปวิทยาการทางวัตถุ ขี้ผึ้งสีปากจึงกลายเป็นลิปสติกเครื่องสำอางอันจำเป็นของสตรีในปัจจุบัน<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi2Sd6IGEOPJxSG4zd5j1ZT1seRzQn19qg5WTR1XDzZxB0-6EiGc-4CkJu5Ljtt5e09MtLI3Ea1AwPbPoQVdfa7APeImPliNY5l2OJFpmNMV4JWolOXDqZkYJjA3XRnUIKpqyBcGVE9eAZY/s1600/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="191" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi2Sd6IGEOPJxSG4zd5j1ZT1seRzQn19qg5WTR1XDzZxB0-6EiGc-4CkJu5Ljtt5e09MtLI3Ea1AwPbPoQVdfa7APeImPliNY5l2OJFpmNMV4JWolOXDqZkYJjA3XRnUIKpqyBcGVE9eAZY/s320/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" width="264" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ขี้ผึ้งสีปาก</span></b>ที่โบราณาจารย์ท่านทำเป็นเครื่องรางของขลังนี้ก็คงใช้สีปากเหมือนเดิม แต่พระอาจารย์เจ้าท่านผสมขี้ผึ้งสีปากนั้นเป็นพิเศษด้วยเวทย์มนต์ และวัสดุของขลังบางอย่าง เช่น สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม อาทิ ว่านและเนื้อไม้กฤษณากลำพัก ฯลฯ วัสดุที่คลุกเคล้าเข้ากับขี้ผึ้งนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับการประจุอาคมขลังสำหรับให้ผลทางเสน่ห์เมตตามหานิยมทั้งสิ้น<br />
<br />
ในกาลต่อมา สมุนไพรของหมดได้หายากยิ่งขึ้น พระคณาจารย์เจ้าท่านจึงใช้แป้งอันสำเร็จแล้วด้วยคุณวิเศษ คือแป้งที่เกิดขึ้นจากการทำผงพระพุทธคุณต่าง ๆ อาทิ ผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห ผงปถมังผงต่าง ๆ เหล่านี้นับเป็นผงที่มีคุณานุภาพทางดลจิตใจให้เกิดความเมตตารักใคร่สงสารทั้งสิ้น เมื่อคลุกเคล้าผงเหล่านี้ด้วยดีแล้ว ท่านก็นำผงทั้งหมดลงผสมเข้ากับขี้ผึ้งมอบให้กับสาธุชนนำไปใช้ในการติดต่อเพื่อผลสำเร็จทางกิจุระการงานอาชีพต่อไป ขี้ผึ้งเหล่านี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ขี้ผึ้งคุณพระ” หมายถึงขี้ผึ้งที่สำเร็จและทางคุณวิเศษด้วยคุณพระรัตนตรัยนั่นเอง การใช้ขี้ผึ้งคุณพระไม่จำเป็นจะต้องเป็นหญิง แม้สุภาพบุราก็พกนำติดตัวไปใช้ในการเจรจาติดต่อเรื่องงานหรือเรื่องของความรักจากเพศตรงข้ามก็ได้<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIhMQ7d2eC9uLPSxpjLHdjpx_FyQZiybsovmBNxlDePog1SRE38GKErSbbJ-EbD3IVfUET11WbHZ3ZgKQePibraNQXUqtOYp6dvtLsZW39poWxljAqbejg4rGiSGzVFm_FfJluhveoAT34/s1600/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="224" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIhMQ7d2eC9uLPSxpjLHdjpx_FyQZiybsovmBNxlDePog1SRE38GKErSbbJ-EbD3IVfUET11WbHZ3ZgKQePibraNQXUqtOYp6dvtLsZW39poWxljAqbejg4rGiSGzVFm_FfJluhveoAT34/s320/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">สีผึ้งทาปาก เมตตามหานิยม ดีทางเสน่ห์</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ขี้ผึ้งสีปาก</span></b>ที่เป็นของแสวงหากันในหมู่ผู้นิยมนับถือเครื่องรางคือ “ขี้ผึ้งสีปากเมตตา” ของหลวงพ่อวัดแปลงยาว ตำบลแปลงยาว อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวกันว่าก่อนที่หลวงพ่อจะประสิทธิ์ขี้ผึ้งให้แก่ผู้ใดหลวงพ่อจะนั่งเข้าที่เสกขี้ผึ้งนั้นด้วยพลังจิตอันแรงกล้า ให้ขี้ผึ้งนั้นเป็นภาพหญิงสาวสวยประจักษ์แก่ตาผู้รับขี้ผึ้งนั้น ไปเสียก่อนและก็ด้วยพลังจิตอันแก่กล้าของหลวงพ่อนั่นเอง ภาพหญิงสาวสวยเสกนั้นก็จะค่อย ๆ กลับกลายมาเป็นขี้ผึ้งตามเดิม เมื่อเสร็จพิธีนี้และผู้รับขี้ผึ้งเห็นประจักษ์แก่ตาจนเป็นที่เลื่อมใสแล้ว หลวงพ่อก็จะมอบขี้ผึ้งวิเศษให้ไป<br />
<br />
ขี้ผึ้งเมตตาของหลวงพ่อวัดแปลงยาว แปดริ้วนี้ มีคุณานุภาพทางเมตตาสูงมาก แต่ในปัจจุบันนี้ท่านชราภาพมากแล้ว การสงเคราะห์สัปบุรุษด้วยการทำขี้ผึ้งให้ หลวงพ่ออาจจะละเสียแล้วก็ได้purinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-42429269164164142232011-09-07T03:25:00.000-07:002011-09-10T07:29:46.928-07:00หวายลูกนิมิต มหาอุด แคล้วคลาดก่อนที่จะมีการลงรากก่อสร้างพระอุโบสถของวัดในพระพุทธศาสนา ทางวัดจะจัดให้มีพิธีฝัง<b>ลูกนิมิต</b> <b>ลูกนิมิต</b>ลักษณะเป็นลูกหิน แต่งเป็นลูกกลมใหญ่คล้ายลูกปืนโบราณ มีจำนวน 8 ลูก ลูกละทิศ เพราะมีคติถือว่าทิศทั้ง 8 นั้น มีพระอรหันต์เจ้าประจำอยู่ทุกทิศดังนี้คือ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgE19Y9JMxS_jjAFo6bOup1uirclPqBs1Rkwdzw1kJtk1FM81cu73dq8d45w2Gdy_m-TzLvXisvKp7_xNbP9n5cz3cZ7zHK3Z_m8nDf_gtg3rzIrMXYTETLjhVvNiNvYedViIhvAZs20Z09/s1600/%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="213" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgE19Y9JMxS_jjAFo6bOup1uirclPqBs1Rkwdzw1kJtk1FM81cu73dq8d45w2Gdy_m-TzLvXisvKp7_xNbP9n5cz3cZ7zHK3Z_m8nDf_gtg3rzIrMXYTETLjhVvNiNvYedViIhvAZs20Z09/s320/%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ลูกนิมิต</span></b></td></tr>
</tbody></table>1. ทิศบูรพา พระโกญทัญญะ เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
2. ทิศอาคเนย์ พระมหากัสสป เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
3. ทิศทักษิณ พระสารีบุตร เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
4. ทิศหรดี พระอุบาลี เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
5. ทิศประจิม พระอานนท์ เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
6. ทิศพายัพ พระควัมปติ เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
7. ทิศอุดร พระโมคคัลลานะ เป็นอรหันต์ประจำทิศ <br />
<br />
8. ทิศอีสาน พระราหุล เป็นอรหันต์ประจำทิศ<br />
<br />
เมื่อตบแต่งลูกนิมิตแล้ว เขาจะนำลูกนิมิตนั้นไปวางไว้ตามปากหลุมประจำทิศ แต่ละทิศให้สัปบุรุษมีโอกาสได้บำเพ็ญกุศลปิดทองลูกนิมิตบูชาไหว้กราบพระอรหันต์แต่ละองค์ ๆ ไปจนครบ 8 องค์ ลูกนิมิตที่นำมาให้ปิดทองนี้วางไว้บนสาแหรกหวายเพื่อเวลาฝังจะได้ใช้หย่อยลงไปในหลุมได้สะดวก ภายในหลุมทำเป็นถุงผ้าใบใหญ่สวมหลุมเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อรองรับอัฏฐบริขารที่ผู้ศรัทธาจะบริจาคหย่อนลงไปในหลุมนั้น <br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiezCy67kj4vzQNzI801gC0kOCCaGncGZ9CRycifnt5JavUp03RJ1yhhO83Bh-665DbsFP2GrPzeBEQWpRT8GR8eFmGml_yq13gKSAoQ4QUK4dkXgJ77-kZkgcJYkjmnFvw9ZkTW-cZfH_7/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="310" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiezCy67kj4vzQNzI801gC0kOCCaGncGZ9CRycifnt5JavUp03RJ1yhhO83Bh-665DbsFP2GrPzeBEQWpRT8GR8eFmGml_yq13gKSAoQ4QUK4dkXgJ77-kZkgcJYkjmnFvw9ZkTW-cZfH_7/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595.jpg" width="310" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หวายลูกนิมิต</span></b></td></tr>
</tbody></table>ของเหล่านี้บางอย่างทางวัดก็จัดไว้จำหน่ายให้เพื่อความสะดวกของผู้ที่จะบริจาค อาทิ เข็ม ด้าย สมุด ดินสอ ผ้าอาบ ฯลฯ เมื่อเสร็จพิธีฝังลูกนิมิตแล้ว สิ่งของที่สัปบุรุษบริจาคไว้ตามหลุมเขาก็นำไปถวายพระต่อไป ส่วนหวายที่เป็นสาแหรกของลูกนิมิตจะถูกตัดออกเป็นส่วน ๆ นำไปแจกจ่ายแก่ศาสนิกชนที่มาร่วมในงาน ผู้ที่ได้หวายสาแหรกของลูกนิมิตไปก็นำหวายนั้นไปเลี่ยมหัวท้ายด้วยเงินทองนาคใส่ในกล่อง หรือทำหูคล้องสร้อยคอถือกันว่าเป็นมหาอุดคืออาวุธปืนมิสามารถจะระเบิดจากลำกล้อง มาทำอันตรายผู้มีหวายสาแหรกลูกนิมิตอยู่กับตัวนั้นได้ หวายลูกนิมิตนี้เป็นที่นิยมของสุภาพสตรีไทย ในสมัยก่อนนี้เป็นอันมาก พระคณาจารย์ท่านให้คาถามหาอุดกันปืนกำกับไว้ดังนี้<br />
<br />
“อุดธังอัดโธ โธอุดธังอัด นะอุด โมอัด พุทยัด ธาปิด ยะอุด” ขณะภาวนาจงให้ได้คาบ (อึดใจหนึ่งว่าให้จบพระคาถา)purinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-52668222649827733002011-09-05T07:44:00.000-07:002011-09-10T07:29:28.353-07:00พระนางพญาลักษณะของพระนางพญา พระส่วนใหญ่จะมีเนื้อหยาบ ส่วนที่เป็นเนื้อละเอียดอ่อนจะมีน้อยมาก มีทั้งหมด 7 พิมพ์ด้วยกัน<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiiaa9fOjcCHShWz5w0_QMPUF9DWwTn2RNN2nBTzNl2O0mbdaoFZRy8SNMnAPtSm3uR1hB8sHhM6icHphAgpkUfxJyV7lyC2P9YW_vvwCNfXfSslG3LPHWHZZLhmRhTP9clUl6OxeJW4Wah/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="132" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiiaa9fOjcCHShWz5w0_QMPUF9DWwTn2RNN2nBTzNl2O0mbdaoFZRy8SNMnAPtSm3uR1hB8sHhM6icHphAgpkUfxJyV7lyC2P9YW_vvwCNfXfSslG3LPHWHZZLhmRhTP9clUl6OxeJW4Wah/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์เข่าโค้ง</span></b></td></tr>
</tbody></table>1. พิมพ์เข่าโค้ง ถือเป็นพิมพ์ใหญ่พิมพ์หนึ่ง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj8ypWJFbGKWyaYNQCkvAOuGJcUZjNya1vM7My4GOTWfJCTEHPV52VTixmX7edoOQvdqiii1SsCWhjvCsB_UgcAIeoBK8Af0Eh87Cu49YK-wz4pWxMx4Ui4T6VS0_7tzQlvAhTvcIpJbs57/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj8ypWJFbGKWyaYNQCkvAOuGJcUZjNya1vM7My4GOTWfJCTEHPV52VTixmX7edoOQvdqiii1SsCWhjvCsB_UgcAIeoBK8Af0Eh87Cu49YK-wz4pWxMx4Ui4T6VS0_7tzQlvAhTvcIpJbs57/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587.jpg" width="131" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์เข่าตรง</span></b></td></tr>
</tbody></table>2. พิมพ์เข่าตรง ถือเป็นพิมพ์ใหญ่ โดยเฉพาะพิมพ์เข่าตรง แยกออกเป็น 2 พิมพ์ด้วยกันคือ พิมพ์เข่าตรง “ธรรมดา” กับพิมพ์เข่าตรง “มือตกเข่า” แต่ทั้งสองพิมพ์ก็ถือว่าอยู่ในความนิยมเหมือนกันทั้งคู่<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjsDiB5YJlLtzydTSnb-OVLcTjg8ep_Ug8xzJl58n01zzh8Th1Nt2jwK_j82OLNsUPGeryCUAwz6zuuh7Z17tpurpKm99o5wYMqbNe15MFob6xH3_1LK7-h1rRQfdbERjhoB84kVtDp21Zz/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2588.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="146" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjsDiB5YJlLtzydTSnb-OVLcTjg8ep_Ug8xzJl58n01zzh8Th1Nt2jwK_j82OLNsUPGeryCUAwz6zuuh7Z17tpurpKm99o5wYMqbNe15MFob6xH3_1LK7-h1rRQfdbERjhoB84kVtDp21Zz/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2588.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์อกนูนใหญ่</span></b></td></tr>
</tbody></table>3. พิมพ์อกนูนใหญ่ ถือเป็นพิมพ์ใหญ่<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicvV27me1XisodzC3QwVqIdar-W9dq4d4Hjtua_2O9wRwiqktxFTFgI3PPWfy7bYD2LD_T0n2J1iViy7EoZdWV8Y-F-hyue5Lb0si60Ha0CAR5Oo_m3n7rzRZZD4Tk-jBzeQ25UlRjNNW6/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258F%25E0%25B8%25B4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicvV27me1XisodzC3QwVqIdar-W9dq4d4Hjtua_2O9wRwiqktxFTFgI3PPWfy7bYD2LD_T0n2J1iViy7EoZdWV8Y-F-hyue5Lb0si60Ha0CAR5Oo_m3n7rzRZZD4Tk-jBzeQ25UlRjNNW6/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258F%25E0%25B8%25B4.jpg" width="133" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์สังฆาฏิ</span></b></td></tr>
</tbody></table>4. พิมพ์สังฆาฏิ ถือเป็นพิมพ์กลาง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgs_6t8inuwz6EqUX0ZxsWBcM5ItrjJnOKsJLJ56IUz3PZZ3qYqZVzxiZ9AoSyKBnbWT5ZgarLKBCIGCgLND-NID5hxOPUPxcp3Z__AB8K_s8NWLhFi5dT11Ua_iV_KtnA6nE6aOpT1Xgyj/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259F%25E0%25B8%259A.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgs_6t8inuwz6EqUX0ZxsWBcM5ItrjJnOKsJLJ56IUz3PZZ3qYqZVzxiZ9AoSyKBnbWT5ZgarLKBCIGCgLND-NID5hxOPUPxcp3Z__AB8K_s8NWLhFi5dT11Ua_iV_KtnA6nE6aOpT1Xgyj/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259F%25E0%25B8%259A.jpg" width="143" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์อกแฟบ</span></b></td></tr>
</tbody></table>5. พิมพ์อกแฟบ (หรือพิมพ์เทวดา) ถือเป็นพิมพ์เล็ก<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIRRC2tT6gF6DGouBjll3MVo_O-CFpqtYeQCMnuNeRCSEZMD13a5wfH3Eh6atyVWrB1EQYmZtSm_-CRdGxzbV4yZbQAuEA94yjeVSb1NCh66ktkTEMvXbDhAuu9OyFWvgHgZ-wLe5Dk1sp/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2581.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIRRC2tT6gF6DGouBjll3MVo_O-CFpqtYeQCMnuNeRCSEZMD13a5wfH3Eh6atyVWrB1EQYmZtSm_-CRdGxzbV4yZbQAuEA94yjeVSb1NCh66ktkTEMvXbDhAuu9OyFWvgHgZ-wLe5Dk1sp/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2581.jpg" width="133" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์อกนูนเล็ก</span></b></td></tr>
</tbody></table>6. พิมพ์อกนูนเล็ก ถือเป็นพิมพ์เล็ก<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhinHfGdeSWWRA8UXXkugriDXFMdQ5tDkRsX1xyB4EzzAB5Mxyqty62wu292JkdNvEF0DgoRs6edD5TlXCaQp8HK_89ZVWNH2bBkoGqqj0py5kC4hqsOEk-aeZ5Tibe7B2D1w0WrhpM1TNV/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="111" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhinHfGdeSWWRA8UXXkugriDXFMdQ5tDkRsX1xyB4EzzAB5Mxyqty62wu292JkdNvEF0DgoRs6edD5TlXCaQp8HK_89ZVWNH2bBkoGqqj0py5kC4hqsOEk-aeZ5Tibe7B2D1w0WrhpM1TNV/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%258C%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา - พิมพ์เข่าบ่วง</span></b></td></tr>
</tbody></table>7.พิมพ์พิเศษ เช่น พิมพ์เข่าบ่วง หรือพิมพ์ใหญ่พิเศษ<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "pub-7389783607213172";
/* 468x15, created 2/8/11 */
google_ad_slot = "9802149344";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 15;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>purinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-44806086437983781952011-08-30T07:42:00.000-07:002011-09-10T07:28:48.983-07:00หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ประวัติหลวงพ่อหรุ่น ใจภารา วัดอัมพวัน กรุงเทพ</span></b><br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg7wbGEWEldSoJNq8Yo9rKiX8YJw7Bd24ICiA9mray8pZdmyU6rEhNgjynXhgS-5_Z_se5twmZMY4OzO-U_5SXabgRaZvU2ifrp32IEiHlQQyaGCTfXuXKnmnO4Omw8rE8lJo-CiKILXv1n/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg7wbGEWEldSoJNq8Yo9rKiX8YJw7Bd24ICiA9mray8pZdmyU6rEhNgjynXhgS-5_Z_se5twmZMY4OzO-U_5SXabgRaZvU2ifrp32IEiHlQQyaGCTfXuXKnmnO4Omw8rE8lJo-CiKILXv1n/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594.jpg" width="226" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>หลวงพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน</b></td></tr>
</tbody></table><b>หลวงพ่อหรุ่น</b> เดิมทีท่านเองเป็นชาวตำบลเชียงราก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อราวปี พ.ศ.2390 ท่านมีความสนใจศึกษาทางด้านวิทยาคมและไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อทราบว่าเกจิอาจารย์รูปใดเก่งกล้าสามารถทางด้านอาคมและไสยศาสตร์ ท่านก็จะดั้นด้นเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาหาความรู้จนเชี่ยวชาญแตกฉาน มีวิทยาอาคมเข้มขลังเป็นที่ยำเกรง<br />
<br />
อีกทั้งท่านเป็นคนจริง จึงมักถูกชาวบ้านทั่วๆ ไปเรียกว่า "นักเลง" ต่อมาชื่อเสียงโด่งดังจึงขนานนามเป็น "เสือหรุ่น" หลังเข้าเป็นผู้ใหญ่บ้านและกำนัน โดยลำดับ ด้วยความดีความชอบจึงได้รับพระราชทานยศเป็นขุนกาวิจล<br />
<br />
ต่อมาท่านละทิ้งทางโลกมุ่งศึกษาทางธรรม โดยอุปสมบทที่วัดลำลูกกา ในปีพ.ศ. 2431 โดย พระญาณไตรโลก (สะอาด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งยังเป็นที่พระธรรมราชานุวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์<br />
<br />
หลังอุปสมบทได้ หลายพรรษา ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ท่านจึงเริ่มเดินธุดงค์ คราหนึ่งท่านธุดงค์มาปักกลดในบริเวณข้างวัดอัมพวัน ถนนนคร ไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ชาวบ้านเห็นถึงวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด และมีคาถาอาคมแก่กล้า จึงได้นิมนต์ท่านมาพำนักที่วัดอัมพวัน<br />
<br />
เมื่อลูกหลานและผู้เลื่อมใสศรัทธาทราบข่าว ก็พากันไปเยี่ยมนมัสการพร้อมขอวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังจากท่านอย่าง ล้นหลาม เนื่องจากท่านมีวิชาอาคมด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุดเป็นเลิศ โดยเฉพาะในด้านการ "สักยันต์" จนได้รับฉายาว่า "หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด" ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวันมาโดยตลอดจนมรณภาพในปี พ.ศ.2471 สิริอายุ 81 พรรษา 35<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTObpPwQaOBkZYfUYyZdLCSiCd_QS3_wXrtVSw9F_CyAtpi3OIMKxvH9UdS5OaRbZzZL4ja_aYyNQaDzqmrlZVMN27I2dMVlSCSUInifOy4n064eg64aQxyAU0cycNAQ5xZ_JtiL0NwNyj/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="210" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTObpPwQaOBkZYfUYyZdLCSiCd_QS3_wXrtVSw9F_CyAtpi3OIMKxvH9UdS5OaRbZzZL4ja_aYyNQaDzqmrlZVMN27I2dMVlSCSUInifOy4n064eg64aQxyAU0cycNAQ5xZ_JtiL0NwNyj/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599+%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด</span></b><br />
<b>เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน</b> นับเป็นเหรียญคณาจารย์เหรียญหนึ่งที่ได้รับความนิยมในวงการนักนิยมสะสม เหรียญคณาจารย์อย่างกว้างขวาง เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อหรุ่น เรียกได้ว่าเป็น เหรียญที่มีราคาเล่นหากันสูงพอควรทีเดียวในบรรดาเหรียญเกจิจารย์ด้วยกัน เนื่องด้วยพุทธาคมของหลวงพ่อหรุ่นผู้สร้างเป็นที่เลื่องลือขจรไกล โดยเฉพาะด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรีpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-22053502569488896732011-08-28T02:37:00.000-07:002011-09-10T07:28:27.727-07:00หลวงปู่ปัญญา ปัญญธโร<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญ หลวงปู่ปัญญา ปัญญธโร วัดหนองผักหนามราษฎร์บำรุง</span></b><br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3cNah7JBAyEQeEObpLTV0QvpRHCRViojFI-b2DQGf49NLRMt3Fn7I92uUOknsdq6dGsjegBL2ATvpcgAmA4zfNan5SNd3eJu3FLYozEkaj1N-DenN8dQk7w5aud3a_m-NHEvdI6Mb5FeZ/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3cNah7JBAyEQeEObpLTV0QvpRHCRViojFI-b2DQGf49NLRMt3Fn7I92uUOknsdq6dGsjegBL2ATvpcgAmA4zfNan5SNd3eJu3FLYozEkaj1N-DenN8dQk7w5aud3a_m-NHEvdI6Mb5FeZ/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" width="199" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">หลวงปู่ปัญญา ปัญญธโร วัดหนองผักหนาม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ปัญญา ปัญญธโร</span></b> เจ้าอาวาสวัดหนองผักหนามราษฎร์บำรุง ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี พระเกจิชื่อดังอายุกว่า 106 ปี สืบสายธรรมจาก ญาครูขี้หอม และ สำเร็จลุน นครจำปาสัก สหธรรมิกหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย พระเกจิชื่อดังอุบลราชธานี<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ปัญญา</span></b> เกิดในสกุล พลราษฎร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2448 ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ร.ศ.124 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ ต.ตะบ่าย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี<br />
<br />
หลวงปู่ปัญญา ได้เข้าพิธีอุปสมบท 2 ครั้ง ในครั้งแรก อายุ 20 ปี ณ วัดตะบ่าย ต.ตะบ่าย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เป็นเวลา 3 ปีแล้วลาสิกขา<br />
<br />
ในครั้งที่ สอง เมื่ออายุครบ 40 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2518 ณ วัดบึงบวรสถิตย์ โดยมี พระครูประภัศร์พุทธิคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกาฮง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุรินทร์ พระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปัญญธโร<br />
<br />
ด้วยความที่หลวงปู่ปัญญา เป็นผู้ที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ท่านจึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น โดยเฉพาะเหรียญต่อเส้นวาสนารุ่นแรก ที่ออกเมื่อปลายปี 2552 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้เหรียญรุ่นแรกหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว<br />
<br />
ดังนั้น วัดหนองผักหนามราษฎร์บำรุง ได้จัดสร้างเหรียญต่อเส้นวาสนารุ่น 2 เพื่อนำปัจจัยจากการเช่าบูชาไปก่อสร้างหอฉันและกำแพงแก้วรอบอุโบสถ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUL24pbyM1poDuTz-wtsv-E_Pz6PCLqXgzZzGuuXwub3TjEU3zLsEHrsZPYl3z_fepGdaGVGhACcD0vXD-zqdeQxgXAk78Vg5t4-83LlctFCRMZGZ2PhdmWFZ51c9t4VmfCoIHUBe1ljHz/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25992.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="219" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUL24pbyM1poDuTz-wtsv-E_Pz6PCLqXgzZzGuuXwub3TjEU3zLsEHrsZPYl3z_fepGdaGVGhACcD0vXD-zqdeQxgXAk78Vg5t4-83LlctFCRMZGZ2PhdmWFZ51c9t4VmfCoIHUBe1ljHz/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25992.jpg" width="312" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญต่อเส้นวาสนา หลวงปู่ปัญญา</span></b></td></tr>
</tbody></table>ลักษณะเป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหูห่วง ขนาดยาวรวมหูห่วง 3.2 เซนติเมตร กว้าง 2.2 เซนติเมตร<br />
<br />
จำนวนเหรียญที่จัดสร้าง ประกอบด้วย เนื้อทองคำ 109 เนื้อเงิน 999 เนื้อ นวโลหะ 2,999 เนื้อทองแดง 11,999 เหรียญ ทองคำ เงิน ตอกโค้ด (ป) ตอกเลขที่หน้าเหรียญ นวะตอกโค้ด (ป) ตอกเบอร์ ๙ ทองแดงตอกโค้ด (ป)<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ด้านหน้าเหรียญ</span></b> เป็นรูปเหมือนหลวงปู่ปัญญานั่งขัดสมาธิเต็มองค์หันหน้าตรง ห่มจีวรเฉียงบ่า พาดสังฆาฏิ ตรงบริเวณสังฆาฏิ เขียนตัวเลข "๑๐๖ ปี" ขอบเหรียญด้านบน เขียนคำว่า "หลวงปู่ปัญญา ปญฺญธโร" ใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า "๒๕๕๓" ขอบเหรียญด้านล่าง เขียนคำว่า "วัดหนองผักหนาม จ.ชลบุรี"<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ด้านหลังเหรียญ</span></b> เป็นรูปลายมือ เรียกว่า ลายมือพระโพธิสัตว์ มีเส้นลายมือ ประกอบด้วย เส้นชีวิตยาวสุขภาพดี เส้นสมองยาว เส้นหัวใจยาวสวย เส้นวาสนาสูง เส้นอาทิตย์ เส้นพุธ เส้นคู่ครองเป็นคู่สวย เส้นพฤหัสฯ เป็นต้น<br />
<br />
ภายหลังการจัดสร้างเหรียญรุ่นดังกล่าวแล้วเสร็จ ทำให้คณะศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาต่างเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของท่านมาเก็บ ไว้ในครอบครองเป็นที่ระลึกกันอย่างมากpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-67584785689711339302011-08-24T09:05:00.000-07:002011-09-10T07:27:58.957-07:00เหรียญหลวงปู่แผ้ว รุ่นปราบไพรี<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgceLOhuJJacD2b02dnxvLV1FfM8i9pHmGCsZ-mnNqAp-0DQheYhbl3dWlZh-unDHEmhVTw3HUCjaASOdwGa-1CMv-OsIqnudVJb-Tm2obWCd1R-O_eC5BobKmhzTiT9Qvxt7cANADn75UM/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259C%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7+%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A3" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="247" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgceLOhuJJacD2b02dnxvLV1FfM8i9pHmGCsZ-mnNqAp-0DQheYhbl3dWlZh-unDHEmhVTw3HUCjaASOdwGa-1CMv-OsIqnudVJb-Tm2obWCd1R-O_eC5BobKmhzTiT9Qvxt7cANADn75UM/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259C%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7+%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A3" width="250" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่แผ้ว ปวโร</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน)</span></b> เป็น วัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 158 หมู่ที่ 5 ต.รางพิกุล อ.กำแพง แสน จ.นครปฐม เดิมชื่อ วัดรางหมัน เพราะที่ตั้งเดิมของวัดเป็นรางน้ำทิ้ง และมีต้นหมันขึ้นอยู่บริเวณนั้น ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดรางหมัน และเวลาต่อมาเมื่อมีการขอตั้งเป็นวัดได้เปลี่ยนเป็นวัดประชาราษฎร์บำรุง ตั้งแต่บัด นั้นเป็นต้นมา<br />
<br />
ภายในวัดมีเสนาสนะ อาทิ อุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นาม หลวงปู่ดำ เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ทรงเครื่อง ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอระฆัง ฌาปนสถาน เป็นต้น<br />
<br />
ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่แผ้ว ปวโร” หรือ “เทพเจ้าแห่งเมืองกำแพงแสน” คำขนานนามที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาตั้งให้ ตามประวัติท่านเกิดเมื่อวันแรม 14 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ซึ่งตรงกับวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2466 พื้นเพเดิม ท่านเป็นคนบ้านหนองม่วง ต.เตาอิฐ อ.บางแพ จ.ราชบุรี<br />
<br />
เมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2466 ณ วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังจากบวชแล้วได้เคร่งครัดในด้านพระธรรมวินัย ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ เล่าเรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐาน ศึกษาพระธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี และชั้นโท<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่แผ้ว</span></b> เป็นพระสมถะเรียบง่าย ไม่ยึดติดกับวัตถุ ไม่สะสมเงินทอง และลาภยศใดๆ เพราะฉะนั้นท่านจึงแสวงหาความสัน โดษและเงียบสงบออกสร้างวัดและจำพรรษาอยู่หลายที่<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่แผ้ว</span></b> เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงไม่แปลกอะไรที่จะมีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ หนึ่งในนั้น คือ พล.ต.ท.เกรียง ศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 อดีต ผบช.ตชด. ท่าน เป็นผู้เคารพและศรัทธาหลวงปู่แผ้วเป็นอย่างมาก และด้วยความศรัทธานี้เอง ทำให้เกิด ปาฏิหาริย์เกี่ยวกับพุทธคุณของพระเครื่องขึ้นกับตัวเองมากมายหลายครั้ง<br />
<br />
พล.ต.ท. เกรียงศักดิ์ สุริโย ได้จัดสร้าง “เหรียญหลวงปู่แผ้ว รุ่นปราบไพรี” เพื่อมอบให้ตำรวจตระเวนชายแดน ผู้ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 อ.เมือง จ.ยะลา<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbNpMqDOJojQsiWG7Iah-WgIDXbYdOUQ258a5eHadgXP0IyuINr68LqKQefFvAf0tIjg0YTQlLbhspSdG29W5MsqmDY_uubE1jqfYroeXRSNL8tSACH8zn2uDhTpwmZuhyphenhypheniED-Ri-NbJpw/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="301" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbNpMqDOJojQsiWG7Iah-WgIDXbYdOUQ258a5eHadgXP0IyuINr68LqKQefFvAf0tIjg0YTQlLbhspSdG29W5MsqmDY_uubE1jqfYroeXRSNL8tSACH8zn2uDhTpwmZuhyphenhypheniED-Ri-NbJpw/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงปู่แผ้ว รุ่นปราบไพรี</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">รูปแบบเหรียญ หลวงปู่แผ้ว รุ่นปราบไพรี</span></b><br />
เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่ มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญ ขอบเหรียญเป็นลายจุดไข่ปลา ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงปู่แผ้วครึ่งองค์หันหน้าตรง ขอบโค้งด้านบนซ้าย เขียนคำว่า “วัดรางหมัน ต.รางพิกุล” ขอบโค้งด้านบนขวา เขียนคำว่า “อ.กำแพงแสน จ.นคร ปฐม” ใต้รูปเหมือนเป็นผ้าธง เขียนคำว่า “หลวงปู่แผ้ว ปวโร” มุมธงด้านซ้าย เขียนเลข “๒๕” มุมธงด้านขวา เขียนเลข “๕๔” ตรงผ้าสังฆาฏิ เขียนคำ “ปวโร” และอักขระยันต์<br />
<br />
ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปหนุมานเชิญธง ด้านบน เขียนคำว่า “ปราบไพรี” ล้อมรอบอักขระยันต์ ด้านซ้ายรูปเหมือนหนุมาน ตอกโค้ดตัวเลข “๘๙”<br />
<br />
ด้วยเจตนาการจัดสร้างที่บริสุทธิ์ และมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธีปลุกเสก ทำให้เหรียญดังกล่าว มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้าน ผู้ที่มีเหรียญนี้ไว้ครอบครองต่างมีประสบการณ์อัศจรรย์มากมาย จัดเป็นเหรียญยอดนิยมอีกเหรียญหนึ่งที่บรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องควรมีไว้ในครอบครองpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-22553692003405485132011-08-22T02:20:00.000-07:002011-09-10T07:27:38.096-07:00พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ กรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระสมเด็จวัดบึงพระยาสุเรนทร์</span></b> นับเป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งที่เรียกกันว่า "เป็นของดี ราคาถูก" และยังคงเป็นที่นิยมและแสวงหากันมากในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่อง พระบูชา เพราะนอกจากจะเป็นของดีราคาถูกดังกล่าวแล้ว องค์พระเองก็น่าสนใจไม่น้อย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ อีกทั้งมวลสารที่นำมาประกอบการสร้างก็นับเป็นตำรับลับเฉพาะของตระกูล "สิงหเสนี" <br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัดบึงพระยาสุเรนทร์</span></b>เป็นพระอารามในกรุงเทพมหานคร ผู้ดำเนินการสร้างและอุทิศให้เป็นเขตวิสุงคามสีมา ได้แก่ เจ้าพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) ท่านเป็นบุตรของพระยามุขมนตรี และเป็นหลานของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg08dLVqCYR8XUkqUrefOlNOJe-mAkQoW26b5WZqElJu54ueplRKX4rM5Bq6rTidsGnkm9X40Bg0hipp7NVH10ywuGCPq3Ms9alPJ3VhmT6Hwg7mlQWsNKK0E4CRKLl-daQeyntL98OcCOL/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="252" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg08dLVqCYR8XUkqUrefOlNOJe-mAkQoW26b5WZqElJu54ueplRKX4rM5Bq6rTidsGnkm9X40Bg0hipp7NVH10ywuGCPq3Ms9alPJ3VhmT6Hwg7mlQWsNKK0E4CRKLl-daQeyntL98OcCOL/s320/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ กรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์</span></b></td></tr>
</tbody></table>ในสมัยพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ยังคงปกครองแบบระบบศักดินา คือ เหล่าข้าราชบริพารจะได้รับอำนาจปกครองที่ดินมากน้อยตามแต่ยศถาบรรดาศักดิ์ ท่านเจ้าพระยาสุเรนทร์ฯ ก็เช่นกัน ท่านได้ที่ดินตามศักดินาในยุคนั้น และได้เว้นที่ริมบึงเก่าซึ่งต่อมาเรียก "บึงพระยา สุเรนทร์" พร้อมกับที่ใกล้บึงถวายวัดจำนวน 48 ไร่ ส่วนตัวท่านเอง ในบั้นปลายชีวิตก็ได้เจริญวิปัสสนากรรมฐานที่วัดบึงพระยา สุเรนทร์นี้ และได้สร้าง "พระพิมพ์บึงพระยาสุเรนทร์" ขึ้น<br />
<br />
พระบึงพระยาสุเรนทร์มีเอกลักษณ์สำคัญคือ เนื้อขององค์พระดูจะแก่น้ำมันและออกสีเขียวๆ ซึ่งเข้าใจว่าคงจะเป็น "ผงหินเขียว" ตามตำรับการสร้างพระแต่โบราณ และที่สำคัญก็คือ มีส่วนผสมของ "น้ำมันพุทธ มนต์" ที่ปลุกเสกตามตำรับลับประจำตระกูลท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา ซึ่งเป็นตำรับเฉพาะพวก "สิงหเสนี" เท่านั้น<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgAgMpPj_sGp0vm48k3q9s5qihtWcRj431LJi2QLa8RWNvkeiUWxIzuqrUrJkWkMTBzNhp8U4HUSQJx-GISJTqTfGWnj1AdVOen9kpctXI7cdtSLsSJyzJnENjX_69_xaHcmLNc-M8vAHta/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="246" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgAgMpPj_sGp0vm48k3q9s5qihtWcRj431LJi2QLa8RWNvkeiUWxIzuqrUrJkWkMTBzNhp8U4HUSQJx-GISJTqTfGWnj1AdVOen9kpctXI7cdtSLsSJyzJnENjX_69_xaHcmLNc-M8vAHta/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ กรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์</span></b></td></tr>
</tbody></table>พระบึงพระยาสุเรนทร์ปรากฏพิมพ์ด้านหน้าหลายพิมพ์ ได้แก่ พิมพ์พระเจ้า 5 พระ องค์ กำกับพระนาม "นะ โม พุท ธา ยะ", พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์, พิมพ์สมเด็จฐานแซม, พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ขั้น และพิมพ์ซุ้มกอ ซึ่ง ทำเป็นรูปสมเด็จแต่ตัดพิมพ์ด้านบนตามรอยโค้งของซุ้มครอบแก้ว มีผู้สันนิษฐานว่า พิมพ์ที่เรียกว่าพระสมเด็จนั้นคงจะทำแบบพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)<br />
<br />
ส่วนด้านหลังองค์พระจะเป็นหลังเรียบ มักพบจารอักขระขอม 4 ตัว อ่านได้ว่า "ติ ติ อุ นิ" และขึ้นยอดเป็น "ตัวอุณาโลม" ซึ่งดูเห็นได้ว่าไม่ใช่ลายมือของคนคนเดียวกัน<br />
<br />
ในด้าน ความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณนั้น เอาเป็นว่าคนโบราณถึงกับร่ำลือกันว่า "ใครมีพระบึงพระยาสุเรนทร์ไว้รับรองไม่ตายโหง" ก็แล้วกัน สำหรับวิธีการสังเกตและพิจารณาว่าเป็นพระแท้หรือไม่ ให้ดูองค์พระที่ผ่านการใช้ องค์พระจะแลดูฉ่ำคล้ายผงน้ำมัน แต่ของเทียมเนื้อจะฝ่อ และหดเหี่ยว ไม่ตึงแน่นเหมือนพระแท้ องค์พระจะออกสีเขียวในเนื้อ นักเลงเล่นพระรุ่นเก่ามักจะคอยตามเก็บพระชุดนี้เงียบๆ ไม่ให้ใครรู้ ปัจจุบันเริ่มหายากขึ้นทุกที ถ้าใครโชคดีมีโอกาสได้เห็นที่ไหนช่วยบอกด้วยpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-23747603695281552332011-08-19T19:04:00.000-07:002011-09-10T07:27:17.865-07:00พระนางพญา กรุวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiFf5-aN0WOTwvWIu3FQPbwPXpRSnaCOQqgEEqPz46VvTBcV8e8sDGV7JB48U2icicuZempZX54stiAb6l51OtXDT4-I8rqdWh41jAOHN1wQCNWP9c70lrAynHSyTb5SBgJAbo-GLfk9wMi/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2581.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="222" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiFf5-aN0WOTwvWIu3FQPbwPXpRSnaCOQqgEEqPz46VvTBcV8e8sDGV7JB48U2icicuZempZX54stiAb6l51OtXDT4-I8rqdWh41jAOHN1wQCNWP9c70lrAynHSyTb5SBgJAbo-GLfk9wMi/s320/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2+%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2581.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา กรุวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญาพิษณุโลก</span></b> จัดว่าเป็นพระเนื้อที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นพระชั้นนำที่สุดของเมืองพิษณุโลกและถูกจัดให้เป็นพระในชุด “เบญจภาคี” ที่ถือว่าสุดยอดของประเทศไทยอีกด้วย พระนางพญากำเนิดที่ “<b>วัดนางพญา</b>” พิษณุโลกความจริงวัดนางพญาก็เป็นวัดเดียวกับ “วัดราชบูรณะ ต่อมาภายหลังได้สร้างถนนผ่ากลางเลยกลางเป็น 2 วัด การได้ชื่อว่า “<b>วัดนางพญา</b>” ก็เพราะได้พบพระนางพญานั่นเอง<br />
<br />
ตามการสันนิฐาน พระนางพญานั้นเป็นผู้ที่สร้างคือ “พระวิษุสุทธิกษัตรี” มเหสีของ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ผู้ที่ได้สร้างหรือปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นบริเวณที่พบพระนางพญานั่นเอง เข้าใจว่าการสร้างพระนางพญานั้นประมาณปี พ.ศ. 2090 – 2100 หรือประมาณสี่ร้อยกว่าปี <br />
พระนางพญา เป็นพระรูปทรงสามเหลี่ยมทุกพิมพ์นั่งมารวิชัยไม่ประทับบนอาสนะหรือมีฐานรองรับ รูปทรงงดงามแทบทุกพิมพ์โดยเฉพาะจะเน้นบริเวณอกที่ตั้งนูนเด่นและลำแขนทอดอ่อนช้อยคล้ายกับ “ผู้หญิง” จึงเรียกพระพิมพ์นี้ว่าพระพิมพ์ “นางพญา” อีกประการหนึ่งก็คือผู้ที่สร้างก็คือ “พระวิสุทธิกษัตรี” นั่นเอง<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา</span></b> ถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ. 2444 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จะเสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก ทางจังหวัดจึงเตรียมการรับเสด็จที่วัดนางพญา โดยจัดการสร้างปะรำพิธีรับเสด็จ เมื่อคนงานขุดหลุมก็เกิดพบพระจำนานมาก ก็คือพระนางพญานั่นเอง ทางจังหวัดและเจ้าอาวาสก็เก็บพระเหล่านั้นไว้ พอสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จ ทางเจ้าอาวาสและทางจังหวัดก็ได้นำพระขึ้นทูลเกล้าฯ สมเด็จพุทธเจ้าหลวงก็ได้ทรงแจกจ่ายให้แก่ราชบริพารที่ตามเสด็จถ้วนหน้า ส่วนที่เหลือก็นำกลับกรุงเทพฯ<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisDRteJ6SYSYkg2nDebX9rvb12WP5Zy-dn-xLO9cLXrzmiZfpNoO4fIXH206leBrjjHMO6X-M6LU_2bA_tyCu1kgmH5sBa_9ZEFchnSqAM8ySJGwAViWWXr-nwwy6d8pyoSekCHxEkT6Z3/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="235" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisDRteJ6SYSYkg2nDebX9rvb12WP5Zy-dn-xLO9cLXrzmiZfpNoO4fIXH206leBrjjHMO6X-M6LU_2bA_tyCu1kgmH5sBa_9ZEFchnSqAM8ySJGwAViWWXr-nwwy6d8pyoSekCHxEkT6Z3/s320/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา กรุวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">พระนางพญา</span></b> ถูกค้นพบต่อมาอีกหลายกรุ แต่ก็เป็นพระพิมพ์เดียวกันกับพระที่พบที่วัดนางพญาทุกอย่าง และเนื้อพระก็เนื้อเดียวกัน อาจจะแตกต่างกันก็เพียงภูมิประเทศที่ค้นพบ เช่น พบที่บ้าน “ตาปาน” บริเวณนี้น้ำท่วมประจำ พระเสียผิวมีเม็ดแร่ลอยมาก จึงเรียกว่า “กรุน้ำ” ในปี พ.ศ. 2479 มีผู้พบพระนางพญา ที่วัด “อินทรวิหาร” บรรจุอยู่ในบาตรที่เจดีย์องค์เล็ก<br />
<br />
ต่อมามีผู้ค้นพบพระนางพญาที่วัดเลียบ (ราชบูรณะ) ในกรุงเทพฯ พบที่ “พระราชวังบวรมงคล” (วังหน้า) พบที่ “วัดสังขจาย” ฝั่งธนบุรี ครั้งสุดท้ายพบที่ “วัดราชบูรณะ” จังหวัดพิษณุโลกอีกครั้ง เมื่อมีการทำท่อระบายน้ำในบริเวณวัดในประมาณปี พ.ศ. 2532 พระนางพญา เป็นพระที่สร้างจากเนื้อดิน ผสมว่าน เกสรดอกไม้ 108 ตลอดจนแร่กรวดทรายต่าง ๆ แล้วนำไปเผาpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-19161960834738448812011-08-15T01:50:00.000-07:002011-09-10T07:27:00.939-07:00เหรียญพระเครื่องยอดนิยม หลวงพ่อคง รุ่นแรก 2484<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiigSVcUfR7bLLPVhoNqbQ_ClbtZ1B7vbh4YnGnZCUFILv9c3E7mAxL8sCVIwq19ZLVCJYUdGLBy8YV07QMFAg17_RNeBbDbYs0MA7ue3jOTpUHUo6op2u6CG-6YsKk2UZKaNsOj7t6wBIO/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiigSVcUfR7bLLPVhoNqbQ_ClbtZ1B7vbh4YnGnZCUFILv9c3E7mAxL8sCVIwq19ZLVCJYUdGLBy8YV07QMFAg17_RNeBbDbYs0MA7ue3jOTpUHUo6op2u6CG-6YsKk2UZKaNsOj7t6wBIO/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A1.jpg" width="261" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม</span></b> รุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2484 เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบหูเชื่อม ปั๊มด้วยโลหะทองแดงผสมทองเหลืองรมดำส่วนผู้ดำเนินการจัดสร้างคือ พ.อ.พระยาศรีสุรสงคราม(เปรื่อง ดิลกโยธิน)โดยขออนุญาตอย่างเป็นทางการ เนื่องในวาระที่หลวงพ่อคงมี อายุครบ 77 ปี<br />
<br />
ในชั้นแรกหลวงพ่อคงได้ปรารภว่า “ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษจะสร้างรูปตัวเองไปแจกดูกระไรอยู่” พ.อ.พระยาศรีสุรสงครามจึงอธิบายถึงจุดประสงค์ว่า เป็นการสร้างเพื่อบูชาพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์<br />
<br />
ท่านจึงอนุญาต แต่ให้ระบุข้อความที่เหรียญพระเครื่องให้ชัดเจนว่า “ศิษย์สร้างบูชาพระคุณของหลวงพ่อ”และ ลาภ ผล พูน ทวี”<br />
<br />
ก่อนที่จะดำเนินการปั๊มเหรียญ พ.อ. ศรีสุรสงคราม ได้นำชนวนหล่อพระในงานพิธีครั้งสำคัญๆ มาหลอมและรีดเป็นแผ่น และขอความเมตตาจากหลวงพ่อลงอักขระยันต์แผ่นทองเหลือง แล้วส่งไปยังร้านอัมราภรณ์ตึกดินว่าจ้างปั๊มเหรียญจำนวนทั้งหมด 3 พันเหรียญในอัตราค่าจ้างปั๊มเหรียญละ 14 สตางค์ โดยกำชับให้ทางร้านนำแผ่นโลหะทองเหลืองหล่อหลอมกับทองแดงรีดเป็นแผ่นทำการปั๊ม<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiu7EIR0rh5imjhGW3EvTg50lciTJackWDRbIvg7OMi8XH42UFkHWCLixZUlWFE9uglFA1xyZXNBBJUOdQD_DczWAKMD0KzJNmRu0CpA86gthew4_byDp6bO5Q3n5YDAEnaZn5fsCIYLswd/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581+2484.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiu7EIR0rh5imjhGW3EvTg50lciTJackWDRbIvg7OMi8XH42UFkHWCLixZUlWFE9uglFA1xyZXNBBJUOdQD_DczWAKMD0KzJNmRu0CpA86gthew4_byDp6bO5Q3n5YDAEnaZn5fsCIYLswd/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581+2484.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม รุ่นแรก 2484</span></b></td></tr>
</tbody></table><br />
ด้วยเหตุนี้พระเครื่องเหรียญหลวงพ่อคงรุ่นแรกจึงไม่ใช่เนื้อทองแดงบรุสุทธิ์ล้วนๆ สังเกตได้จาก “เหรียญสึก”จะเห็นว่า ผิวโลหะออกสีเหลืองไม่แดงเข้มแบบทองแดง<br />
<br />
เมื่อแล้วเสร็จ พ.อ.พระยาศรีสงคราม ได้กราบเรียนต่อหลวงพ่อคงว่า หากใครมาเช่าบูชาเหรียญ ให้คิดเหรียญละ 5 บาทโดยถวายเข้าวัดหลวงพ่อ 2 บาท ส่วนอีก 3 บาท เป็นต้นทุนในการจัดสร้างเหรียญ <br />
<br />
หลวงพ่อคงเห็นดังนั้นจึงเก็บใส่บาตรทิ้งไว้จนกระทั้งมรณภาพลง โดยไม่ได้จำหน่ายเหรียญไปเลย ด้วยเกรงว่าชาวบ้านจะครหาว่าท่าน เอาเหรียญมาขายกิน<br />
<br />
ต่อมา พ.อ.พระยาศรีสุรสงคราม จึงได้นำเหรียญทั้งหมดถวายแก่ หลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี ก่อนตกทอดมาสู่ หลวองพ่อเนื่อง ซึ่งท่านได้นำออกแจกจ่ายจนหมดสิ้นpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-74873756140926338402011-08-10T09:23:00.000-07:002011-09-10T07:26:38.713-07:00เหรียญรุ่นหน้าไฟหลวงปู่ตื้อ<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญรุ่นหน้าไฟหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก</span></b><br />
“<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม</span></b>” พระเกจิอาจารย์สายกัมมัฏฐานชื่อดังอีกรูป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอรัญญวิเวก ต.บ้านข่า อ.ศรี สงคราม จ.นครพนม ที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งพระป่า <br />
<br />
หลวงปู่ตื้อ วัดป่าอรัญญวิเวกเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่, หลวงปู่ขาว อนาโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู และหลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา กล่าวได้ว่า หลวงปู่ตื้อ เป็นยอดพระวิปัสสนาจารย์ ตลอด 50 ปีได้ธุดงค์ไปเหนือจรดใต้ ข้ามไปฝั่งพม่า ก่อนธุดงค์ไปภูเขาควายในฝั่งลาว ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2517 สิริอายุ 86 ปี พรรษา 65 หลังหลวงปู่ตื้อมรณภาพ คณะศิษย์โรงเรียนจ่าอากาศดอนเมือง ได้จัดสร้างพระเครื่อง รุ่นหน้าไฟ เพื่อไว้แจกเป็นที่ระลึกในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOiB7REPL_XqelGgKXuGSEx9pRUQ-Eh1oolu4N6pvdwgfwJro78hBdsU0NKZgxqymv_nOBfO2y5dfM6EHnuEaAndFPQczWGbBKV9JEuc2RQ_o9DaXz5nQYg46EqqxYp_xUmc4mL7iV1HYl/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D+%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259B.%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="262" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOiB7REPL_XqelGgKXuGSEx9pRUQ-Eh1oolu4N6pvdwgfwJro78hBdsU0NKZgxqymv_nOBfO2y5dfM6EHnuEaAndFPQczWGbBKV9JEuc2RQ_o9DaXz5nQYg46EqqxYp_xUmc4mL7iV1HYl/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D+%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259B.%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหน้าไฟหลวงปู่ตื้อ</span></b></td></tr>
</tbody></table>พระเครื่องลักษณะ เป็นเหรียญรูปทรงคล้ายใบโพธิ์ มีหูห่วง ออกแบบได้อ่อนช้อยงดงามสม ส่วน จัดสร้างเป็นเนื้อทองแดงชุบนิเกิล เนื้อทองแดงผิวไฟ และเนื้อทองแดงรมดำ จัดสร้างจำนวนประมาณ 5,000 เหรียญ<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ด้านหน้าเหรียญ</span></b> มีลายเส้นขอบคล้ายเส้นใบโพธิ์ ในระหว่างเส้นแต่ละเส้นมียันต์อักขระซ้ายและขวารวม 6 ตัว ตรงกลางเหรียญบุ๋มคล้ายแอ่งกระทะ มีรูปเหมือนหลวงปู่ตื้อเต็มองค์ ห้อยลูกประคำนั่งท่าขัดสมาธิบนฐานดอกบัวหงาย มุมซ้ายด้านล่างใกล้ขอบเหรียญสลักตัวหนังสือนูน 2 บรรทัด “หลวงปู่ตื้อ อาจารธมฺโม” ใกล้ขอบเหรียญมุมขวาด้านล่าง สลักตัวหนังสือคำว่า “วัดป่าอรัญญวิเวก ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม”<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ด้านหลังเหรียญ</span></b> ภายในลายเส้นคล้ายเส้นใบโพธิ์ มียันต์อักขระ 8 ตัวกำกับ ตรงกลางเหรียญเป็นรูปลายเส้นเจดีย์ที่หลวงปู่ตื้อสร้างบรรจุพระบรม สารีริกธาตุ ตรงกลางเจดีย์ในช่องลายเส้นสี่เหลี่ยมมียันต์อักขระกำกับ ใต้ฐานเจดีย์มี อักขระอีก 3 ตัวปิดท้าย<br />
<br />
วัตถุมงคลรุ่นนี้ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย ซึ่งท่านเป็นสหธรรมิกหลวงปู่ตื้อ ได้เมตตานั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก ทำให้พุทธคุณเหรียญรุ่นนี้จึงโดดเด่นรอบด้าน ทั้งคงกระพันชาตรี มหาอุด เปี่ยมล้นเมตตาสูง ไม่แพ้หลวงปู่ตื้อปลุกเสก เอง<br />
<br />
สำหรับราคาเช่าหาวัตถุมงคลรุ่นหน้าไฟในปัจจุบัน ราคา เช่าหาบูชาเหรียญรุ่นนี้ที่ชัดเจน ยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นตัวเลขที่แน่นอน อยู่ที่ความพอใจระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า เหรียญทุกเนื้อถ้าด้านหลังเหรียญตอกโค้ดเครื่อง หมาย “จอ” จ่าอากาศ บริเวณใกล้เจดีย์ ราคาเช่าหาประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้าไม่มีการตอกโค้ด ราคาเช่าหาประมาณ 1,000 บาททุกเนื้อ ปัจจุบัน เหรียญหลวงปู่ตื้อ รุ่นหน้าไฟ พบเห็นในตลาดพระเครื่องได้น้อยมากpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-43349265609983120072011-08-08T01:34:00.000-07:002011-09-10T07:25:38.298-07:00กุมารทอง<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">กุมารทอง</span></b> เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ที่มาของกุมารทองมาจากการเลี้ยงภูติผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่คนเลี้ยงไว้จะเรียกว่า “โหงพราย”<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-NLRk5P_-3a5b-E-Kl7Wx2Dg3oQDqg2S21oRbZiS3bRMzqSj-lALE1FguIrbHDAoLsCv3fMfsKjQmdrJwKKhNEtXN1UYCFDozd5K_lfSVopHUKANTnVUSO7EEkPkI6csi4ShrIawODgrX/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="241" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-NLRk5P_-3a5b-E-Kl7Wx2Dg3oQDqg2S21oRbZiS3bRMzqSj-lALE1FguIrbHDAoLsCv3fMfsKjQmdrJwKKhNEtXN1UYCFDozd5K_lfSVopHUKANTnVUSO7EEkPkI6csi4ShrIawODgrX/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">กุมารทอง</span></b>นั้น แรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่ เรียกว่าตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสารโบราณระบุถึงการทำกุมารทองสรุป ว่า ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่ากุมารทอง ต่อมาสภาพสังคมและวัฒนธรรมพัฒนาไปมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริง ๆ ได้ จึงได้มีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้างกุมารทองขึ้น มีหลายรูปแบบ กุมารทองจากดินเจ็ดป่าช้าบ้าง กุมารทองจากไม้รักซ้อนหรือกุมารทองจากไม้มะยมบ้าง กุมารทองจากงาช้าง กุมารทองจากกระดูกบ้าง กุมารทองจากตะปูสังฆวานร หรือกุมารทองจากวัตถุอาถรรพ์อื่นๆ ไปจนถึงโลหะ มาสร้างเป็นรูปกุมารทอง แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4 และเรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDL_cmbsqnnAQzKABnySSJocOZInl_lZm5lMJXl0tuG_rSX8Q7yXEg_lVYaIqI6D6E7wNPyEcnF_HHB7XRYgGvL-wGOvcHNtuhPYCBSojU8MBRZzv13O_lxxBqS8PYpG0xLA-qs3Es4Y_9/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="239" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDL_cmbsqnnAQzKABnySSJocOZInl_lZm5lMJXl0tuG_rSX8Q7yXEg_lVYaIqI6D6E7wNPyEcnF_HHB7XRYgGvL-wGOvcHNtuhPYCBSojU8MBRZzv13O_lxxBqS8PYpG0xLA-qs3Es4Y_9/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">กุมารทอง</span></b>ปัจจุบัน นิยมสร้างเป็นรูปเด็ก ลักษณะเป็นเด็กไว้จุก นุ่งโจงกระเบนอย่างโบราณ กลายเป็นเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าเสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารทองนั้น ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวงและต้องเรียกให้กินข้าวด้วย กล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลดีกุมารทองก็ จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล้ำกราย ปัจจุบันผู้บูชานิยมไหว้ด้วยน้ำแดง เรื่องราวของกุมารทองถูกกล่าวถึงใน วรรณคดีไทย เช่น ขุนช้างขุนแผน บ้างก็นับลูกกรอก เป็นกุมารทองด้วยpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-88626951114375409462011-08-06T03:00:00.000-07:002011-09-10T07:25:07.032-07:00หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน"<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ยวง สุภัทโท</span></b>" แห่งวัดหน้า ต่างใน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแก่กล้าในพลังจิตพุทธาคม ศิษย์ก้นกุฏิสืบสายธรรมจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อนิล วัดหน้าต่างใน และหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองกรุงเก่าในอดีต ปัจจุบัน หลวงปู่ยวง สิริอายุ 84 ปี<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">อัตโนประวัติ หลวงปู่ยวง</span></b> เกิดปีเถาะ พ.ศ.2470 ชีวิตในวัยเยาว์ เป็นผู้มีความชอบวัด ติดวัด เข้าวัดฟังธรรมอยู่เป็นนิจ มากกว่าเด็กในวัยเดียวกันที่ชอบเที่ยวเตร่หาความสนุกสนานไปวันๆ อีกทั้งท่านเป็นเด็กใกล้วัดมาตั้งแต่เล็ก คอยวิ่งช่วยงานวัดหน้าต่างนอกและวัดหน้าต่างใน คอยอุปัฏ ฐากรับใช้หลวงพ่อจงและหลวงพ่อนิล ทำให้ท่านทั้งสองให้ความเมตตากับเด็กชายเป็นอันมาก<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgECaGnWkMfEc4ZFyRSHUzDgywZ1M3r3u2V0cQFN06qTACMJoTC2PYvfaYs8kCZYWj3mYaR7Zjj2wo60bmHcWhbiFAHHYlX5gSaDOThOEoUz4_A5pfQx0AftHX_H12FcIrGKbM4FgHiJ5Y7/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgECaGnWkMfEc4ZFyRSHUzDgywZ1M3r3u2V0cQFN06qTACMJoTC2PYvfaYs8kCZYWj3mYaR7Zjj2wo60bmHcWhbiFAHHYlX5gSaDOThOEoUz4_A5pfQx0AftHX_H12FcIrGKbM4FgHiJ5Y7/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน จ.พระนครศรีอยุธยา</span></b></td></tr>
</tbody></table>เมื่ออายุครบ อุปสมบท โยมบิดามารดาจึงจัดพิธีอุปสมบทให้ ณ พัทธสีมาวัดหน้าต่างใน โดยมีพระครูพิมพ์ วัดช่างเหล็ก จ.พระ นครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อจง และหลวงพ่อนิล เป็นพระคู่สวด ภายหลังอุปสมบท ท่านได้อยู่พำนักเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาการต่างๆ ที่วัดหน้าต่างใน ได้มาศึกษาหาความรู้ในด้านพระปริยัติธรรมและธรรมสิกขา พร้อมทั้งฝึกฝนด้านการเขียนอ่านอักษรทั้งไทยและขอมจากท่านพระครูพิมพ์ พระอุปัชฌาย์<br />
<br />
หลวงพ่อยวง เป็นพระเถราจารย์ที่มีวิทยาคมแก่กล้า ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อนิล วัดหน้าต่างใน และหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล<br />
<br />
<b>หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน</b> ได้รับการเรียกขานจากบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ให้ความเคารพนับถือว่า “พระเกจิใหญ่แห่งแม่น้ำน้อย” ท่านมีอุปนิสัยไม่ค่อยพูดจา เวลามีใครมาสนทนาธรรมด้วย ท่านมักได้แต่ยิ้ม “เออ…เออ” เพียงแค่นี้เท่านั้น กล่าวสำหรับ วัดหน้าต่างในเป็นวัดพี่น้องกับวัดหน้าต่างนอก วัดหน้าต่างในเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ ต.หน้าไม้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดหน้า ต่างในอยู่ตรงข้ามกับวัดหน้าต่างนอก เป็นวัดธรรมดาเหมือนวัดทั่วไป มีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง สำหรับให้ชาวบ้านได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnjoYi-FXzRCREpy1TgHRWkU-qHlshXPqp6F59YRo3Yua1zwFtiRTtkVf1veR4FawF3HdCgineYnbiIu1yEAcwOPLHS0OhLuWi1hn5CV5x9N6TSmeYoB4O-LC6f9Ls7y8908Ujj4wgAXr7/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A5+%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="307" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnjoYi-FXzRCREpy1TgHRWkU-qHlshXPqp6F59YRo3Yua1zwFtiRTtkVf1veR4FawF3HdCgineYnbiIu1yEAcwOPLHS0OhLuWi1hn5CV5x9N6TSmeYoB4O-LC6f9Ls7y8908Ujj4wgAXr7/s320/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A5+%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">วัตถุมงคล หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน จ.อยุธยา</span></b></td></tr>
</tbody></table>นอกจากนี้ หลวงพ่อจง ยังเป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เนื่องจากมีพระอุปัชฌาย์องค์เดียวกัน หลวงปู่ยวง ได้สร้างพระเครื่อง วัตถุมงคลไว้มากมายหลายชนิด มีทั้งเหรียญ ผ้ายันต์ ตะกรุด แผ่นยันต์มหาลาภ และกันไฟ แต่พระเครื่องที่มีชื่อเสียงมาก คือ ตะกรุดปัญญาไวและปลาตะเพียน หลวงปู่ยวง ยังได้สร้างเหรียญเสมาหน้าใหญ่ หลวงพ่อจง-หลวงปู่ยวง ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อจง ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่ยวง<br />
<br />
ทำเนียบพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองกรุงเก่าในยุคนี้ นามของ “หลวงปู่ยวง สุภัทโท” ย่อมปรากฏอย่างสง่าสมเกียรติประวัติที่ได้รับการยกย่อง ยอมรับจากบรรดาพุทธศาสนิกชน ควรแก่การกราบไหว้บูชา ความเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนธรรมอย่างสูง ตลอดทั้งความเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ผู้คนหวนระลึกนึกถึงบารมีธรรมของท่านที่ได้สั่งสมไว้ตลอดระยะเวลาอัน ยาวนานที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์purinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-6726489217535970002011-08-03T19:07:00.000-07:002011-09-10T07:24:41.381-07:00เทพเจ้าจีน<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1R02e48It7X17DytOSHXfg9v9uSV5rygssAgPGxoEUHS_o18Y1b3_ZojGGFSUdA7A9JNH8m5xbsaKzRznYruaiQssixMy5c16K38Z8K72AXBl-XKUdx-AibJmzlmqqqIS0WTOy-ULRJ5g/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2588%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1R02e48It7X17DytOSHXfg9v9uSV5rygssAgPGxoEUHS_o18Y1b3_ZojGGFSUdA7A9JNH8m5xbsaKzRznYruaiQssixMy5c16K38Z8K72AXBl-XKUdx-AibJmzlmqqqIS0WTOy-ULRJ5g/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2588%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2.jpg" width="224" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา</span></b></td></tr>
</tbody></table><b>เทพเจ้า</b> หมายถึง เทวดาผู้เป็นใหญ่ ตามคติความเชื่อของชาวพุทธ การใช้คำว่า “เทพ หรือ เทวดา” ครอบคลุมถึงพรหมทั้งหลายในพรหมโลกด้วย ชาวพุทธถือว่า เทวดาบนสรวงสวรรค์เป็นภพภูมิที่เสวยสุขอย่างเดียว ไม่สามารถทำความดีได้มาก เนื่องจากไม่มีกายเนื้อ แต่สามารถติดตามผู้ที่ทำความดีอย่างสม่ำเสมอได้ เพื่ออนุโมทนาบุญ สามารถสวดมนต์และฟังธรรมได้ เมื่อเทวดาหมดบุญแล้วก็ต้องจุติไปเกิดในภพภูมิอื่นๆต่อไป ผู้ที่เป็นเทวดาถือว่าการเกิดในโลกมนุษย์เป็นสุขคติภูมิของตน เพราะมนุษย์มีกายเนื้อ สามารถทำความดีได้มาก<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMxFSSxZDoWtB_O7kKMPkiqzEPIO97zIgR2zZNFoSjXbACnKj1i9wBG-F1xGJG7pb9L9xqrY1TWZnCOia_qinwiPGo8KsCSOCeQUONHrflaAMTxKv8KkcOq1WpPQGPP_BcojeMbHMqvMg6/s1600/%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%25A2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMxFSSxZDoWtB_O7kKMPkiqzEPIO97zIgR2zZNFoSjXbACnKj1i9wBG-F1xGJG7pb9L9xqrY1TWZnCOia_qinwiPGo8KsCSOCeQUONHrflaAMTxKv8KkcOq1WpPQGPP_BcojeMbHMqvMg6/s320/%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%25A2.jpg" width="224" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย</span></b></td></tr>
</tbody></table>เหตุที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ให้ความเคารพบูชากราบไหว้ <b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เทพเจ้าของชาวจีน</span></b> เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จะบันดาลความสุขความทุกข์ให้เกิดแก่ใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเมตตาของท่าน หากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีดวงชะตาที่ไม่ดีทำอะไร ก็มีปัญหาติดขัด ก็อธิฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ ดังนั้นในแต่ละปี จึงมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพร ให้อยู่เย็นเป็นสุขมีดวงชะตาที่ดีตลอดทั้งปี ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน จึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าของชาวจีน เป็น ที่รู้จักและนิยมมากราบไหว้บูชาขอพรมีด้วยกันหลายองค์ เช่น เจ้าแม่กวมอิม ,ไฉ่ซิ่งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ,ไท้ส่วยเอี๊ย เทพจ้าคุ้มครองดวงชะตา,ฮก หมายถึง บุญวาสนา อำนาจ เกียรติยศ ,ลก หมายถึง โชคลาภและความมั่งคั่ง บริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ , ซิ่ว หมายถึงอายุยืนpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-68896721952879734632011-07-31T06:52:00.000-07:002011-09-10T07:24:13.960-07:00หลวงปู่ทิม วัดพระขาว<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ทิม วัดพระขาว</span></b>เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2456 อุปสมบท เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2491 โดยมี พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๔๙๒ สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2493 สอบได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ.2500 สอบได้นักธรรมชั้นเอก<br />
<br />
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2504 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระขาว พ.ศ. 2510 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลน้ำเต้า และตำบลพระขาว ทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูสังวรสมณกิจ”<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOoSHk_pU0LPkOICFze9ZEUCx8FEYFlWvamosMFRGf_iyJW4A3Nw5syw6hlzBfHVYQsdtJJJuXBj6_cN0Wf0EgaP9WVVDwM14iep4be1MBnlmTI_okQk_GK55bQGyotJRJHy6a5wZAeUr9/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOoSHk_pU0LPkOICFze9ZEUCx8FEYFlWvamosMFRGf_iyJW4A3Nw5syw6hlzBfHVYQsdtJJJuXBj6_cN0Wf0EgaP9WVVDwM14iep4be1MBnlmTI_okQk_GK55bQGyotJRJHy6a5wZAeUr9/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1+%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7.jpg" width="256" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา</span></b></td></tr>
</tbody></table>พ.ศ.2520 <b>หลวงปู่ทิม วัดพระขาว</b>ได้รับพระราชทานเลื่อน สมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโทในราชทินนามเดิม และที่นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่งสำหรับหลวงปู่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นพระ นักพัฒนา คือในพ.ศ.2549 ได้รับการถวายปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา<br />
<br />
ต่อมา พ.ศ.2550 หลวงปู่ทิม วัดพระขาวยังได้รับพระราช ทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ในฐานะผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาสงเคราะห์ประชาชน และส่งเสริมพัฒนาชุมชน โดยได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี<br />
<br />
ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลวงปู่ทิม วัดพระขาวได้ รับการยกย่องว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งความเมตตา” เป็นพระเถระผู้มีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ให้ความเมตตาช่วยเหลือสงเคราะห์อนุเคราะห์แก่ญาติโยมชาวบ้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRnYhzWQP__trei5zS2w1sd7Sn7QETwCGB5F2Y-7pNIFzQwaoC_uyR3Oyvw7NKRQh-fA4xhJldtEIww_4XmVPdqIgP1BA3uMrWOKIVcsqKSKUDhl7EqVIjV2bmgIOz31xXpfJWXy7RzL29/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%258C.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="318" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRnYhzWQP__trei5zS2w1sd7Sn7QETwCGB5F2Y-7pNIFzQwaoC_uyR3Oyvw7NKRQh-fA4xhJldtEIww_4XmVPdqIgP1BA3uMrWOKIVcsqKSKUDhl7EqVIjV2bmgIOz31xXpfJWXy7RzL29/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%258C.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญบาตรน้ำมนต์ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว</span></b></td></tr>
</tbody></table>โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจนิมนต์ต่างๆ เมื่อได้รับแล้วหลวงปู่ทิม วัดพระขาวท่าน จะต้องไปสนองศรัทธาญาติโยมเสมอ ไม่ว่าใกล้หรือไกล ไม่เคยปฏิเสธเลย ขณะเดียวกันก็ไม่เคยละเลยการปฏิบัติศาสนกิจใดๆ ที่พระสงฆ์ทั้งหลายพึงปฏิบัติ แม้หลวงปู่จะสูงด้วยพรรษายุกาลมากแล้วก็ตาม<br />
กิจนิมนต์สำคัญอย่างหนึ่งที่หลวงปู่ทิม วัดพระขาวได้รับโดยตลอด คือ งานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ จะต้องมีชื่อของหลวงปู่นั่งปรกปลุกเสกเป็นประจำ ชื่อเสียงของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวจึงปรากฏขจรขจายอย่างกว้างไกล ด้วยเหตุดังกล่าว วัดพระขาวที่หลวงปู่ทิม ปกครอง ดูแล จึงเป็นวัดที่มีการพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองตลอดเวลา เพราะแรงศรัทธาของชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่มีต่อหลวงปู่ ได้ร่วมแรงร่วมศรัทธาทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา บำรุงวัด จนมีเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถหลังใหม่อันงดงาม วิหาร หมู่กุฏิสงฆ์ทรงไทยที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหมด เป็นแถวยาวอย่างมีระเบียบสวยงาม หอพระ ศาลา เมรุ มณฑป เขื่อนกั้นน้ำ แพปลา โรงครัว หรือแม้กระทั่งห้องสุขาห้องน้ำที่มีความสะอาด และถูกสุขลักษณะ<br />
<br />
นอกจากนี้ยังรวมถึงสาธารณประโยชน์ ที่หลวงปู่ทิม วัดพระขาวได้เมตตาให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนรอบวัด ที่สำคัญ คือ โรงเรียนวัดพระขาว แหล่งการศึกษาของบุตรหลานชาวบ้านในท้องถิ่น หลวงปู่ทิม วัดพระขาวก็ได้ให้ความอุปถัมภ์ทั้งในเรื่องงานก่อสร้างอาคาร และทุนการศึกษามาโดยตลอดpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-84577175243145082852011-07-29T02:00:00.000-07:002011-09-10T07:23:44.251-07:00หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">ประวัติหลวงตามหาบัว</span></b> กำเนิด ในครอบครัวชาวนา ณ บ้านตาด อุดรธานี วันเกิด 12 ส.ค.2456 มีพี่น้องทั้งหมด 16 คน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวง คู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน</span></b> แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี นาม บัว โลหิตดี ชาติภูมิ ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี เกิดเมื่อ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน๙ ปีฉลู ณ บ้านตาด อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี บิดา นายทองดี โลหิตดี มารดา นางแพงศรี โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน สถานภาพ<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi97q6pELEmcYy-6Yel9D3TYmJirfjXMI4NYcmMEES4iZcwGSBUb6D2MRjfLYj3ksE306fVw9Z5wO0qzN44yIvt7aW23iURkMxKjBbF8bVP_4Y1lJd2ZaiGM76JwT-HKmF-DYlrO-605Psp/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7.gif" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi97q6pELEmcYy-6Yel9D3TYmJirfjXMI4NYcmMEES4iZcwGSBUb6D2MRjfLYj3ksE306fVw9Z5wO0qzN44yIvt7aW23iURkMxKjBbF8bVP_4Y1lJd2ZaiGM76JwT-HKmF-DYlrO-605Psp/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7.gif" width="267" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน</span></b> สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวงคู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น วันบวช ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj1PjnB-rEfYtXcEc_QhP-lYWc1Gp-X9NzK03KIAsFIHfc55qay3-yoFTimGdrGeGP7kXQHfUycPHphGK_3VLJKTOWwzRsLUCX-2Em5jNxeVz9FfTRF-N3d34H8y2XHKIHRFZ-PPwKIqOpq/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="226" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj1PjnB-rEfYtXcEc_QhP-lYWc1Gp-X9NzK03KIAsFIHfc55qay3-yoFTimGdrGeGP7kXQHfUycPHphGK_3VLJKTOWwzRsLUCX-2Em5jNxeVz9FfTRF-N3d34H8y2XHKIHRFZ-PPwKIqOpq/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7" width="300" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน</span></b></td></tr>
</tbody></table>พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ โดยมีท่านพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายานามว่า “ญาณสมฺปนฺโน” แปลว่า “ถึงพร้อมแล้วด้วยการหยั่งรู้” ในพรรษาแรกท่านได้ตั้งสัจอธิษฐานว่า ในการทำวัตรเช้า-เย็นรวมและการบิณฑบาต จะไม่ให้มีวันใดขาดเลย และท่านก็ทำได้ตามที่ตั้งคำสัตย์ไว้ เรียนปริยัติ เมื่อได้เรียนหนังสือทางธรรม ตั้งแต่นวโกวาท พุทธประวัติ ประวัติพระสาวกอรหันต์ ที่ท่านมาจากสกุลต่างๆตั้งแต่พระราชา เศรษฐี พ่อค้า จนถึงประชาชน<br />
<br />
หลังจากฟังพระพุทธโอวาทแล้วต่างก็เข้าบำเพ็ญเพียร ในป่าเขาอย่างจริงจัง ท่านตั้งสัจจะไว้ว่า จะขอเรียนบาลีให้จบแค่เปรียญ ๓ ประโยคเท่านั้น ส่วนนักธรรมแม้จะไม่จบชั้นก็ไม่เป็นไร จากนั้นจะออกปฏิบัติกรรมฐานโดยถ่ายเดียว จะไม่ยอมศึกษาและสอบประโยคต่อไปเป็นอันขาด เรียนจบ หลวงตามหาบัวสอบได้ทั้งนักธรรมเอก และเปรียญ ๓ ประโยคในปีที่ท่านบวชได้ ๗ พรรษา ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่แห่งนี้เอง เป็นที่แรกที่ท่านได้มีโอกาสพบเห็นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-26810261315955387852011-07-27T00:37:00.000-07:002011-09-10T07:23:02.005-07:00หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย จ.สมุทรสงคราม<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrd571Q-Le4u8INbrNiG22IKpEYG8ykDbJe-jxQ8kKejeqbY6deoVys0bTR2Lv_i2HHeyMC_oOieqsvMxqlWO1W8os3XzID63PhZCv3_TTB_idFZQzptNqswovCQxcQr6dSxke8Kp7WbzS/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrd571Q-Le4u8INbrNiG22IKpEYG8ykDbJe-jxQ8kKejeqbY6deoVys0bTR2Lv_i2HHeyMC_oOieqsvMxqlWO1W8os3XzID63PhZCv3_TTB_idFZQzptNqswovCQxcQr6dSxke8Kp7WbzS/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7.jpg" width="241" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อแก้ว พรหมสโร</span> หรือ พระครูวินัยธรรม</b> เกิดเมื่อปี พ.ศ.2393 ที่ ต.บางแค อ.อัมพวา พออายุ 10 ขวบ บวชเป็นสามเณรที่วัดบางแคใหญ่ ศึกษาอักขรสมัยและภาษาไทยที่วัด และได้ร่ำเรียนกับบิดาผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทไปด้วย จนอายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบท ศึกษาด้านพระธรรมวินัยกับพระอุปัชฌาย์จนแตกฉาน ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเส็งซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับการถ่ายทอดวิชาด้านพุทธาคมและวิปัสสนากรรมฐานจากพระอาจารย์ อีกทั้งยังเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อวัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ศึกษาด้านวิทยาอาคมจนมีความชำนาญเชี่ยวชาญอีกด้วย<br />
<br />
<b>หลวงพ่อแก้ว</b> เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ มีคุณวิเศษหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีวาจาสิทธิ์ และเป็นพระนักพัฒนา สมัยที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพวงมาลัย ท่านบูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดจนเจริญรุ่งเรือง ท่านยังได้ช่วยสร้างวัดอีกหลายแห่ง เช่น วัดอีโก้ วัดสาธุชนาราม เป็นต้น ท่านจึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของบรรดาพุทธศาสนิกชน แม้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่อย่างพระองค์เจ้าภาณุรังษีก็ทรงเคารพ เลื่อมใส ถึงกับมาสร้างวังอยู่ใกล้ๆ วัดพวงมาลัยและเสด็จมาเยี่ยมท่านเป็นประจำ กิตติศัพท์ทางด้านวิทยาอาคมของท่านเป็นที่เลื่องลือขจรไกล ลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนได้ปรากฏประจักษ์เป็นเนืองนิตย์<br />
<br />
หลวงพ่อแก้ว มรณภาพในปี พ.ศ.2464 สิริอายุ 71 พรรษา 51<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZSG0q-1tce2Rd3Fe0h0NNgK8SGdIu06y3K50DIM6CA6Ez46xbE6LU4sNIFPaQBDNWIFg_yBWEaHuadPJZkNy4uEVlDfdV5H_J6Xq0aNI3QUDuyk3UvDZqCu_dD2KQz33HfWNlsh2y_60u/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZSG0q-1tce2Rd3Fe0h0NNgK8SGdIu06y3K50DIM6CA6Ez46xbE6LU4sNIFPaQBDNWIFg_yBWEaHuadPJZkNy4uEVlDfdV5H_J6Xq0aNI3QUDuyk3UvDZqCu_dD2KQz33HfWNlsh2y_60u/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย</span></b></td></tr>
</tbody></table>วัตถุมงคลของหลวงพ่อแก้วมีมากมาย ทั้ง ตะกรุดใบลาน ผ้ายันต์ และเหรียญต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมอย่างมากในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์ และพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะ “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแก้ว ปี 2459″ ซึ่งสร้างในโอกาสสร้างพระอุโบสถวัดพวงมาลัย มีการจัดสร้างหลายเนื้อ และแบ่งแยกพิมพ์เป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์วัดและพิมพ์วังบูรพา นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด และ สนนราคาค่อนข้างแพง เนื่องด้วยจำนวนการสร้างน้อยและหาดูหาเช่ายากในปัจจุบัน<br />
<br />
“<b>เหรียญ รูปเหมือนหลวงพ่อแก้ว</b> พิมพ์วัด” ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อแก้วเต็มองค์ นั่งขัดสมาธิ ล้อมโดยรอบด้วยช่อดอกไม้ เหนือศีรษะเป็นตัว “อุณาโลม” หางยาวจดขอบเหรียญ รอบนอกสุดเป็นอักขระขอมอ่านว่า “พุทยัด ธาปิด ยะอุด นะอุด โมอัด” ล่างสุดเป็นปี พ.ศ.ที่สร้าง “๒๔๕๙” ด้านหลัง บนสุดเป็นตัว “อุณาโลม” ถัดมาตามแนวรอบขอบเหรียญเป็นอักขระขอมอ่านว่า “นะ โม พุท ธา ยะ อุ ทัง อัด โท ปิด คะ นะ” ช่วงกลางลงอักขระขอมว่า “ภู ภี ภุ ภะ” ต่อลงมาเป็นฉายาอ่านว่า “พรหมสโร”<br />
<br />
สำหรับ “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแก้ว พิมพ์วังบูรพา” พระองค์เจ้าภาณุรังษี เป็นผู้สร้างถวาย ลักษณะเหรียญจะเป็นแบบเดียวกับพิมพ์วัด ต่างกันที่หูเป็นแบบหูในตัว และศิลปะการแกะแม่พิมพ์เป็นฝีมือช่างคนละคนกันpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-7944497821419630482011-07-25T01:38:00.000-07:002011-09-10T07:22:25.771-07:00หลวงพ่อซำ อินทสุวัณโณ<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgT_NyFpW34mkcfF_ZsVVO8UMl7vTA6f0AiT5hYvaHTr68QuVgH4hzFY35FAg6fZd093385xzMJIRrwgVvPxc5OHadKE2NdDGd1e3abU2LqJa3eKwXKtOkwhgR-vt5yA4vFkd5r_uBUtVIp/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B3+%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2593" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgT_NyFpW34mkcfF_ZsVVO8UMl7vTA6f0AiT5hYvaHTr68QuVgH4hzFY35FAg6fZd093385xzMJIRrwgVvPxc5OHadKE2NdDGd1e3abU2LqJa3eKwXKtOkwhgR-vt5yA4vFkd5r_uBUtVIp/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B3+%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2593" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อซำ อินทสุวัณโณ</span></b></td></tr>
</tbody></table><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อซำ อินทสุวัณโณ</span></b> อดีตเจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ ต.ตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นพระเกจิผู้เรืองคุณวิทยาคมแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย เจ้าตำราวิชาแพทย์แผนโบราณและเจ้าตำรับเบี้ยแก้อาถรรพณ์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง<br />
<br />
ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2413 ที่บ้านหลักขอน ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นบุตรของนายจีนซึง กับนางอินท์ แซ่ลี้ ต่อมาใช้นามสกุลว่า “สีสุวรรณ์” ท่านมีพี่น้อง 3 คน<br />
<br />
ช่วงวัยเยาว์ ได้เรียนหนังสือกับพระที่วัดตลาดใหม่ จนอ่านออกเขียนได้ ครั้น เมื่ออายุ 24 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2438 ณ พัทธสีมาวัดตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ มีพระอธิการดี วัดฝาง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการแป้น วัดสิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์จันทร์ วัดท่าสุวรรณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์<br />
<br />
หลังอุปสมบทก็อยู่จำพรรษาที่ วัดตลาดใหม่ เพียง 2 พรรษา ก่อนเดินทางไปศึกษาบาลีที่วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี และย้ายไปจำพรรษาที่วัดสร้อยทอง เพื่อเรียนหนังสือ พระอาจารย์เปรม ครูใหญ่วัดสร้อยทอง เห็นแววความขยันหมั่นเพียร จึงได้แต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วยสอน พ.ศ.2443 กลับมาจำพรรษาวัดตลาดใหม่ เนื่องจากเป็นห่วงหลวงพ่อคุ่ย เจ้าอาวาส<br />
<br />
ต่อมาหลวงพ่อคุ่ยได้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณให้ แต่ท่านศึกษาเล่าเรียนได้เพียง 3 พรรษา หลวงพ่อคุ่ยมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน เมื่อท่านดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาส ได้เริ่มรักษาคนไข้ตามวิชาที่ร่ำเรียนมา ปรากฏว่าการรักษาได้ผลดีมาก เป็นที่เลื่องลือไปในที่ต่างๆ พินิจพิจารณาอย่างรอบคอบสุขุมก่อนจะให้ยารักษา กระทั่งคณะสงฆ์ออกคำ สั่งห้ามมิให้ภิกษุกระทำตนเป็นหมอโบราณ ประกอบกับท่านชราภาพ จึงเลิกรักษาคนไข้ แต่ชาวบ้านก็ยังไปขอยามิได้ขาด หากไม่มีตัวยาท่านก็จดให้ไปหาซื้อหากันเอง นับว่าท่านเมตตา ช่วยเหลือชีวิตชาวบ้านโดยแท้ และในขณะนี้ร้านจำหน่ายยาแผนโบราณก็ปรุงยาตามตำราท่าน นอกเหนือจากการเป็นหมอแผนโบราณ ท่านยังจัดสร้างเบี้ยแก้อาถรรพณ์ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลชิ้นเอกที่แจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหาในโอกาสต่างๆ โดยหลวงพ่อซำ จะสร้างทุกวันอาทิตย์ วันอังคาร และวันเสาร์ หากในสามวันนี้ตรงกับวันพระ ท่านจะหยุดสร้าง และการสร้างเบี้ยแก้อาถรรพณ์จะสร้างจำนวนเท่ากับกำลังในแต่ละวัน เช่น วันอาทิตย์ มีกำลังวันคือ 6 ท่านจะสร้างเพียง 6 ตัว วันอังคารมีกำลัง 8 สร้างเพียง 8 ตัว หรือวันเสาร์มีกำลัง 10 สร้างเพียง 10 ตัว และประกอบพิธีให้แล้วเสร็จในคราวเดียว<br />
<br />
กรรมวิธีการสร้าง <b>หลวงพ่อซำ</b>จะตั้งศาลเพียงตา นำเบี้ยแก้คือ หอยพูใส่พานวางไว้พร้อมกับปรอทและชันโรง บวงสรวงอัญเชิญบรมครู เทพเทวาฟ้าดิน เพื่อขออนุญาตประกอบพิธีและให้มาสถิตประสิทธิ์ประสาทวิชา จากนั้นจะบริกรรมคาถาเรียกแร่แปรธาตุ เทปรอทลงในตัวเบี้ย อุดปิดปากเบี้ยด้วยชันโรง บริกรรมคาถานิมิตกำกับ นำแผ่นฟอยล์อะลูมิ เนียมปิดทับชันโรงอีกชั้นหนึ่ง นั่งสมาธิอธิษฐานจิตปลุกเสก ขณะเดียวกัน ยังสร้างผ้ายันต์กันภัยอีกด้วย<br />
<br />
ปัจจุบัน เบี้ยแก้อาถรรพณ์<b>หลวงพ่อซำ</b> นับวันยิ่งหาดูหรือหาบูชาได้ยาก เนื่องด้วยเหตุผลนานาประการ ถูกจับยัดเป็นของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ก็มาก เพราะอายุการสร้างใกล้เคียงและพลิกแปลงการสร้างเช่นกัน จึงต้องดูขนาดเบี้ยและชันโรงเป็นหลัก<br />
<br />
เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังของเมืองอ่างทอง ที่ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องเวทวิทยาคม โดยกล่าวขวัญกันว่าท่านเป็นสำเร็จฌานสมาบัติสูง สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ดุจตาเห็น จนเป็นที่โจษ จันกันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังมีความเมตตาปรานีสูงยิ่ง ใครจะไปจะมาท่านก็ต้อน รับอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่สัตว์ต่างๆ ท่านก็ยังให้ความเมตตา ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา คือ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ, หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม, หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน และพระสมุห์ปรเมษฐ เจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ หลวงพ่อซำ เริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่อายุ 93 ปี แต่ท่านฉันยาเก่ง เมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคอะไรจะรีบฉันยาโดยไม่ปล่อยให้โรคกำเริบ<br />
<br />
กระทั่งถึงวันที่ 15 มกราคม 2509 ท่านได้มรณภาพด้วยกิริยาสงบ สิริอายุ 94 พรรษา 71 ดำรงเจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ยาวนานถึง 63 ปี นับว่าเป็นพระเถระที่มีอายุยืนยาวรูปหนึ่งของเมืองอ่างทองpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6730073669027395912.post-90127009054520313062011-07-20T01:41:00.000-07:002011-09-10T07:21:47.382-07:00หลวงพ่อชาญ อิณมุตโต วัดบางบ่อ<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อชาญ อิณมุตโต วัดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ</span></b><br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjimLHq6y2NculJPgfmKJVG57L0wVdcTaegvl2CyS_i4zFtiQ0NEHJHZ-vVtn3__fZ4zpxY9j_jeT16bIpaFeOz7htm4lbd4b7TE-0PJrOLvUFEP4T071Vt6Gg1SexjovVwwLPI1cs6oysa/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="244" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjimLHq6y2NculJPgfmKJVG57L0wVdcTaegvl2CyS_i4zFtiQ0NEHJHZ-vVtn3__fZ4zpxY9j_jeT16bIpaFeOz7htm4lbd4b7TE-0PJrOLvUFEP4T071Vt6Gg1SexjovVwwLPI1cs6oysa/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D.jpg" width="206" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ</span></b></td></tr>
</tbody></table>'พระครูวิจารณ์ธรรมคุณ' หรือที่ชาวบ้านมักเรียกขานว่า '<b>หลวงพ่อชาญ อิณมุตโต</b>' สิริอายุ 98 ปี พรรษา 78 เจ้าอาวาสแห่งวัดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางบ่อ<br />
<br />
ชื่อเสียงของ<b>หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ</b>เป็นที่รับรู้ถึงความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล ที่พลิกผันสถานการณ์อันเลวร้าย ให้กลับกลายเป็นดี<br />
<br />
ท่านมีนามเดิมว่า ชาญ รอดทอง เกิด เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2457 ที่ ต.เกาะไร อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา<br />
<br />
พิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2476 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 มี พระอธิการบุญเหลือ โสภโณ วัดเทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์<br />
<br />
หลังอุปสมบท ได้อยู่จำพรรษาที่วัดคลองสวน ต่อมาย้ายมาอยู่ที่วัดนิยมยาตรา จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ 32 ปี ระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่อำเภอบ้านโพธิ์ มีโอกาสศึกษาวิชากัมมัฏฐานจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังยุคอินโดจีน 2 ท่าน คือ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก และหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี<br />
<br />
ข่าวพระเครื่องหลวงพ่อชาญ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ศิษย์ ถึงความขลังความศักดิ์สิทธิ์ และจริยวัตรของหลวงพ่อ ทำให้ได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในพื้นที่ภาคตะวันออกและพิธี พุทธาภิเษก พระเครื่องสำคัญทั่วประเทศ<br />
<br />
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ จึงจะมีการจัดสร้างสักครั้งหนึ่ง อาทิ พระเหรียญและพระผง 80 ปี เหรียญนั่งเสือ เป็นต้น<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhHeAS8VqRi81rK9T06N_IkVujMskmdUYi4U1_2-G8qVPZ3XuCBkRvpPSU-v1vteUTl57tdfBl0xbmMpEIteox2BhzK2aNphOWpPoFeLCzlSEl3i4s0W4oqM4zfU2hSulwJRsofpgpZ7oS1/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D+%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhHeAS8VqRi81rK9T06N_IkVujMskmdUYi4U1_2-G8qVPZ3XuCBkRvpPSU-v1vteUTl57tdfBl0xbmMpEIteox2BhzK2aNphOWpPoFeLCzlSEl3i4s0W4oqM4zfU2hSulwJRsofpgpZ7oS1/s320/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D+%25E0%25B8%25A5.%25E0%25B8%259E.%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258D.jpg" width="265" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญรุ่นแรก ล.พ.ชาญ วัดบางบ่อ ปี 2513</span></b></td></tr>
</tbody></table>ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องทั้งสิ้น โดยเฉพาะ '<b><span class="Apple-style-span" style="color: orange;">เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ ปี พ.ศ.2513</span></b>'<br />
<br />
ลักษณะเป็นเหรียญกลมเล็ก มีหู จัดสร้างเป็นเนื้อทองแดงรมดำ พระรุ่นนี้เท่าที่พบมีสองเนื้อ คือ เนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดง<br />
<br />
ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อชาญครึ่งองค์หันหน้าตรง ใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า "พระครูวิจารณ์ธรรมคุณ วัดบางบ่อ" จุดสังเกตรูปเหมือนหลวงพ่อชาญตรงหน้าผากจะมีลักษณะนูน<br />
<br />
ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปยันต์ประจำตัวหลวงพ่อชาญ ใต้ยันต์มีข้อความ "จ.สมุทรปราการ"<br />
<br />
ด้วยเจตนาการจัดสร้างพระเครื่องที่บริสุทธิ์ และมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล ทำให้เหรียญรุ่นนี้ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบ ด้าน ผู้ที่มีเหรียญนี้ไว้ครอบครองต่างมีประสบการณ์อัศจรรย์มากมายpurinatthhttp://www.blogger.com/profile/11347796434894840421noreply@blogger.com0